ทางการอังกฤษได้ฟ้องร้องบุคคลสี่คนที่เกี่ยวข้องกับการขโมยห้องน้ําที่ทําด้วยทองคําสีเงินมูลค่าประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐจากบลีนเฮมพาเลซ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของนายกรัฐมนตรีวินสตัน เชอร์ชิลล์เก่า
ผู้พิพากษารัฐได้เข้าพบกับผู้ต้องหาสี่คนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีอายุระหว่าง 35-39 ปี และถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการวางแผนและการกระทําการขโมยในปี 2562 ทางผู้พิพากษาและตํารวจยังไม่เปิดเผยว่าได้ค้นพบห้องน้ําดังกล่าวหรือไม่
ไมเคิล โจนส์ อายุ 38 ปี และเจมส์ ชีน อายุ 39 ปี ถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิดฐานขโมยทรัพย์สิน ส่วนเฟรด ดอร์ อายุ 35 ปี และบอรา กุชชุก อายุ 39 ปี ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการถ่ายโอนทรัพย์สินทางอาญา
ตํารวจเทศมณฑลเทมส์แวลลีย์ ซึ่งเป็นผู้สอบสวนคดีนี้ได้กล่าวในปี 2564 ว่าพวกเขาพบว่าการค้นหาห้องน้ําดังกล่าวเป็นเรื่องท้าทาย
“คุณคิดว่าเราจะเห็นห้องน้ํานั้นอีกหรือไม่? ส่วนตัวแล้วผมสงสัยว่ามันจะยังอยู่ในรูปของห้องน้ําหรือไม่” นายมัทธิว บาร์เบอร์ ผู้ว่าการตํารวจและอาชญากรรมได้กล่าวกับบีบีซี “ถ้าคุณมีทองคํามากขนาดนั้น ฉันคิดว่าเป็นไปได้ที่บุคคลบางคนอาจจะสามารถกําจัดมันไปได้อย่างหนึ่งอย่างใดแล้ว”
ศิลปินชาวอิตาลีมาอริซิโอ คัตเตลลาน เป็นผู้ออกแบบห้องน้ําดังกล่าวซึ่งทําด้วยทองคําสีเงิน 18 กะรัต และตั้งชื่อว่า “อเมริกา” เพื่อเป็นการเยาะเย้ยความร่ํารวยและหรูหราของคนชั้นสูง
ห้องน้ําดังกล่าวเคยตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กุกเกเนมในนครนิวยอร์กก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่บลีนเฮมพาเลซ ซึ่งผู้เข้าชมสามารถจองเวลาใช้ห้องน้ํานี้ได้ถึง 3 นาที
พนักงานพิพิธภัณฑ์กุกเกเนมได้กล่าวว่างานศิลปะนี้ชวนให้ผู้ชม “ใช้สิ่งอํานวยความสะดวกนี้เองและส่วนตัว เพื่อประสบการณ์ความสนิทสนมกับงานศิลปะในระดับไม่เคยมีมาก่อน”
ผู้ก่อเหตุได้ขโมยห้องน้ําดังกล่าวในช่วงกลางคืนของเดือนกันยายน 2562 เพียงแค่สองวันหลังจากติดตั้งไว้ที่บลีนเฮมพาเลซ ซึ่งห้องน้ํานี้ได้ถูกเชื่อมต่อกับระบบท่อน้ําของอาคาร ตํารวจได้ตอบสนองต่อเหตุการณ์การรุกรานเมื่อเวลาประมาณ 5 โมงเช้า และพบว่าเกี่ยวข้องกับการใช้ยานพาหนะสองคัน
การขโมยดังกล่าวส่งผลให้เกิดน้ําท่วมและความเสียหายต่อบลีนเฮมพาเลซ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของดยุกแห่งมาร์ลบะระ และได้รับการจดทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกซึ่งมีงานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์ที่มีค่ามากมาย
ผู้ต้องหาทั้งสี่คนจะต้องปรากฏตัวต่อศาลแขวงออกซฟอร์ดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อพิจารณาคดี
สํานักข่าวเอพีและรอยเตอร์ได้มีส่วนร่วมในการรายงานข่าวนี้