ชะตากรรม “บ๊อบบี้” พิตบูลขย้ำเจ้าของดับ ปศุสัตว์มาจับแล้ว ยาสลบเข็มเดียวเอาไม่อยู่

ชะตากรรม “บ๊อบบี้” พิตบูลขย้ำเจ้าของดับ ญาติไม่เลี้ยงต่อ แจ้งเทศบาลและปศุสัตว์มาจับแล้ว ยาสลบเข็มเดียวเอาไม่อยู่ 

จากกรณีที่ นายเทอดพงษ์ หรือ หนึ่ง อายุ 47 ปี อดีตจ๊อกกี้สนามม้าโคราช ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุถูก เจ้าบ๊อบบี้ สุนัขพิตบูลของตัวเองที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ กัดคากรง เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ก่อนที่จะส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาล ป.แพทย์ และส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.มหาราช ก่อนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 4 ก.พ. และได้ทำพิธีฌาปนกิจเมื่อวานนี้ (9 ก.พ.)

ล่าสุดวันนี้ (10 ก.พ.66) ที่ วัดทุ่งสว่าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ครอบครัวของนายเทอดพงษ์ กำลังประกอบพิธีเก็บอัฐิของนายเทอดพงษ์ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ภายหลังผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายเทอดพงษ์ พบว่าเจ้าบ๊อบบี้ไม่อยู่แล้ว ซึ่งทราบจากทางแม่ของนายเทอดพงษ์ว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้มีการประสานไปยังเทศบาลตำบลตลาด เพื่อให้มานำตัวเจ้าบ๊อบบี้ออกไป เพราะไม่สามารถเลี้ยงได้แล้ว เนื่องจากกลัวว่าจะมากัดคนในบ้านอีก

โดยเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตลาดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ได้มานำตัวเจ้าบ๊อบบี้ไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งกว่าจะจับตัวเจ้าบ๊อบบี้ได้ทางเจ้าที่ต้องยิงยาสลบถึง 2 เข็ม เจ้าบ๊อบบี้ถึงจะสลบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวเจ้าบ๊อบบี้ออกมาได้ในที่สุด ก่อนที่ทางปศุสัตว์จังหวัดจะมอบตัวเจ้าบ๊อบบี้ให้กับเทศบาลตำบลตลาดนำตัวไปดูแล ก่อนที่จะได้รับการประสานงานจากศูนย์ฝึกสุนัขทหาร อ.ปากช่อง เพื่อนำตัวเจ้าบ๊อบบี้ไปดูและฝึกฝนต่อไป

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้พูดคุยกับทาง นางดวงสุรีย์ อายุ 68 ปี แม่ของนายเทอดพงษ์ ซึ่งตามร่างกายโดยเฉพาะแขนซ้ายและต้นขาด้านซ้ายของนางดวงสุรีย์ เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ที่เกิดจากการถูกเจ้าบ๊อบบี้กัด โดยนางดวงสุรีย์ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในวันเกิดเหตุนั้นตนนั่งกินข้าวอยู่กับแฟนของลูกชายสักครู่ ตนจึงขอตัวเข้าไปพักผ่อนที่ห้องแต่ตนเปิดทีวีไม่เป็นจึงเดินออกมาจากห้องแล้วตะโกนเรียกให้ลูกชายมาเปิดทีวีให้ พอตะโกนเรียกเสร็จเจ้าบ๊อบบี้ก็วิ่งมากระโจนใส่ตนจนล้ม ก่อนที่เจ้าบ๊อบบี้จะพยายามกัดมาที่บริเวณใบหน้าและลำคอของตน ตนจึงยกแขนซ้ายขึ้นกันเจ้าบ๊อบบี้เอาไว้ เจ้าบ๊อบบี้จึงได้กักเข้ามาที่แขนซ้ายของตน ตนจึงตะโกนให้ลูกชายมาช่วย

พอลูกชายมาถึงก็รีบเข้ามาช่วยกันงัดปากเจ้าบ๊อบบี้ออกจากแขนของตนแต่ด้วยเจ้าบ๊อบบี้ตัวใหญ่และแรงเยอะ พอสะบัดจากแขนของตนเจ้าบ๊อบบี้ก็หันมากัดที่ขาอีก จนน้องชายวิ่งเข้ามาช่วยอีกแรงจน นำตัวเจ้าบ๊อบบี้ออกจากตัวเองได้ หลังจากนั้นลูกชายจึงลากเจ้าบ๊อบบี้ไปที่กรงก่อนจะนำโซ่จะมาล่ามเจ้าบ๊อบบี้เอาไว้ แต่ทันใดนั้นเจ้าบ๊อบบี้ก็หันมากระโดดกัดแขนลูกชาย ก่อนที่จะลากเข้าไปในกรงและกัดซ้ำต่อเนื่อง ในระหว่างนั้นทางน้องชายของตนก็พยายามจะเข้าไปช่วยแต่ไม่สามารถทำได้เพราะลูกชายเข้าไปอยู่ในกรงกับเจ้าบ๊อบบี้ ซึ่งลูกชายก็พยายามสู้และปล้ำกันกับเจ้าบ๊อบบี้เกือบครึ่งชั่วโมง กว่าเจ้าบ๊อบบี้จะหยุด ลูกชายของตนจึงพยายามคลานออกมาจากกรง ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะหลายแห่งจนเห็นกระดูก

จากนั้นทางน้องชายของตนจึงรีบนำตนและลูกชายส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันเพราะเสียเลือดมากและบาดแผลฉกรรจ์ จนทำให้เสียชีวิตในที่สุด จนถึงตอนนี้ตนยังทำใจไม่ได้กับการเสียลูกชายไปเพราะถ้าลูกชายไม่เข้ามาช่วยคงจะเป็นตนที่จะต้องตายแทน

ทางด้าน นางสาวมรกต อายุ 40 ปี น้องสาวผู้ตาย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่พี่ชายได้ถูกสุนัขพิตบูลกัดจนเสียชีวิต อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่อยากจะเลี้ยงสุนัขพันธ์นี้ ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่าอย่าเลี้ยงดีกว่า เพราะมีความเสี่ยงในการจะถูกกัดจนถึงชีวิตสูง และหากเราไม่ทราบวิธีการในการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้มันจะยิ่งยาก อยากให้เคสของพี่ชายเป็นเคสสุดท้าย และส่วนในการรักษาตัวของคุณแม่กำลังปรึกษากับหมอที่รักษาคุณแม่อยู่ว่าจะให้รักษาตัวต่อที่นี่ หรือกลับไปรักษาตัวที่ประเทศเดนมาร์ก เนื่องจากแม่มีโรคประจำตัวและกังวลว่าแผลจะติดเชื้อ เพราะไม่ทราบว่าสุนัขได้ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอทางคุณหมอแจ้งอีกที