ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยบางไผ่ 22 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ว่าขณะนี้คนในหมู่บ้านแห่งนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนจากเจ้าของที่ดินว่างเปล่าหน้าหมู่บ้าน ที่กำลังดำเนินการถมพื้นที่ด้วยขยะมูลฝอย ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นจากขยะและน้ำเสียส่งกลิ่นรบกวน รวมทั้งปริมาณแมลงวันที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบว่าเป็นพื้นที่ความกว้างประมาณ 40 เมตร ยาวประมาณ 100 เมตร ภายในพื้นที่ถูกขุดดินขึ้นมาถมเป็นคันกั้นไว้โดยรอบ ส่วนพื้นที่ตรงกลางเต็มไปด้วยเศษขยะมูลฝอยหลายชนิดจมอยู่ในพื้นที่ที่ถูกขุดไว้ส่งทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็นลอยมาตามลม โดยกองขยะเหล่านี้ถูกกองหินคลุกบังสายตาเอาไว้หากมองมาจากด้านนอก ซึ่งมีการใช้ตาขายพลาสติกขึงปิดริมถนนไว้ป้องกันการมองเห็น ภายในมีรถแทร็คเตอร์จอดอยู่ 1 คัน
จากการสอบถาม หญิง อายุ 40 ปี ผู้พักอาศัยในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากหลังบ้านอยู่ติดพื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า บ้านพักอาศัยของตนได้รับผลกระทบมาเกือบ 2 เดือนแล้ว โดยไร้การเหลียวแลจากหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งนี้เมื่อประมาณกลางเดือน มิ.ย.65 เจ้าของพื้นที่ได้เข้ามาดำเนินการขุดดินตรงกลางของที่ดังกล่าวออกไปสร้างคั้นดินไว้โดยรอบ จากนั้นในวันต่อๆ มาเริ่มมีรถบรรทุกสิบล้อขนขยะเข้ามาทิ้งวันละหลายรอบ
จากทีแรกที่ตนเข้าใจว่าจะเป็นการถมพื้นที่ด้วยเศษวัสดุต่างๆ แต่กลับกลายเป็นขนขยะมูลฝอยจากที่อื่นมาทิ้งในพื้นที่ที่ขุดไว้แทน จากนั้นต่อมาขยะก็เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นรบกวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ฝนตก จะมีกลิ่นจากน้ำขยะที่ท่วมขังกระจายไปจนผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่อยูติดกับพื้นที่แห่งนี้ไม่สามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างบ้านได้เลย เพราะจะมีกลิ่นเน่าเหม็นเข้ามรบกวนทันที นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากแมลงวันที่มาจากกองขยะเหล่านี้บินเข้ามาสร้างความรำคาญในบ้านอีกด้วย
ทีแรกตนก็นึกว่าเจ้าของพื้นที่ผืนนี้มาปรับปรุงพื้นที่เพื่อปลูกกล้วยหรือต้นไม้เพื่อเลี่ยงภาษีที่ดินวางเปล่า แต่กลับกลายเป็นการขุดบ่อนำขยะมาฝังกลบแทน เคยร้องเรียนไปทาง อบต.บางไผ่ ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในพื้นที่ก็ได้รับคำตอบมาว่า เจ้าของที่ดินขออนุญาตถูกต้อง ซึ่งตนก็งงว่ามีการอนุญาตให้นำขยะมูลฝอยจากที่อื่นเข้ามาขุดฝังกลบในพื้นที่กลางเมืองได้อย่างไร
หากการถมที่เป็นดินหรือเศษวัสดุก่อสร้างตนกับชาวย้านในหมู่บ้านก็คงไม่เดือดร้อนหรือได้รับผลกระทบขนาดนี้ อยากให้เจ้าของที่มีสามัญสำนึกในการอาศัยอยู่ร่วมกันในชุมชนด้วย และตนอยากให้หน่วยงานอื่นๆ ของทางจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับการขนขยะมาฝังกลบในพื้นที่กลางเมืองด้วยว่ากระทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ล่าสุดวันนี้ นายสุวิชัย บุญเพ็ง นายก อบต.บางไผ่ และเจ้าหน้าที่กองช่างและกองสาธารณะสุข อบต.บางไผ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบและเร่งดำเนินการแก้ไข เบื้องต้นได้มีการตักเตือนให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว รวมถึงแจ้ง จนท.ตำรวจ ให้มาว่ากล่าวตักเตือนแล้วตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.65 แต่เจ้าของที่ไม่มีการดำเนินการแก้ไข ทางสิ่งแวดล้อมจังหวัดได้ลงพื้นที่แจ้งความเอาผิดเจ้าของที่ และดำเนินคดีได้ถูกศาลสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 4,000 บาท และสั่งให้ดำเนินการปรับภูมิทัศน์ให้อยู่ในสภาพที่ไม่สร้างความเดือดร้อน แต่ปัจจุบันเจ้าของที่ยังเพิกเฉย
ชายอายุ 61 ปี ผู้ดูแลพื้นที่ ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ให้ถมที่รกร้างและดำเนินการ ปลูกมะพร้าว และทำสวน กล่าวว่า หลังชาวบ้านร้องเรียนตนได้หยุดดำเนินการ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเมื่อวันที่ 11 ก.ค.65 ส่งฟ้องศาล ถูกสั่งปรับเป็นเงิน 4,000 บาท และรอลงอาญา
จากนั้นได้ดำเนินการ กลบปรับพื้นที่ให้เรียบร้อย ซึ่งสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากอยู่ระหว่างติดต่อหาผู้รับเหมามาดำเนินการ ตนทราบว่าในระหว่างที่ตนปรับพื้นที่มีคนนำขยะมาทิ้ง แต่ทางตนอนุญาตให้เป็นเศษวัสดุก่อสร้าง ไม่ให้เอาขยะเปียกมาทิ้ง ตนไม่ทราบว่าจะมีขยะเปียกแอบมาทิ้งหรือไม่ แต่กลิ่นเกิดจากน้ำที่น่าเสีย เพราะที่ตรงนี้เป็นบ่อมากลายสิบปีแล้ว น้ำขังไหลไปไหนไม่ได้ ทั้งหมดเป็นป่ากกและหญ้าน้ำที่ขังจึงทำให้มีกลิ่น วันนี้ตนจะเร่งดำเนินการให้เสร็จและค่อยปรับระดับให้สูงเท่าถนน
นายสุวิชัย บุญเพ็ง นายก อบต.บางไผ่ ชี้แจงว่าทาง อบต.บางไผ่ เพิ่งได้รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านเมื่อวันที่ 21 ก.ค.65 ตนจึงได้มีคำสั่งให้โยธาและสาธารณสุข อบต.บางไผ่ ลงมาตรวจสอบในพื้นที่และสั่งให้หยุดดำเนินการ ห้ามทิ้งขยะอีกพร้อมกับให้ไถกลบให้แล้วเสร็จ ทางผู้ประกอบการได้ขอเวลาดำเนินการ 15 วัน โดยในวันที่ 5 ส.ค.65 จะลงตรวจสอบอีกครั้ง