ตำรวจจับชายต่างชาติพกมีด ก่อนพาไปหาเมีย ตอนจบสุดหักมุม เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว!

ตำรวจจับชายต่างชาติพกมีด ก่อนพาไปหาเมีย เฉลยตอนจบหักมุม เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว!

จากกรณีผู้ใช้ TikTok โพสต์คลิปเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.กะรน ควบคุมตัวนักท่องเที่ยวกลับห้องพักของโรงแรม และมีการนำขนมเค้กจุดเทียนมาให้กับนักท่องเที่ยวและครอบครัวนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และสถานีตำรวจภูธรกะรน ขอเรียนชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนี้

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 18.48 น. ร.ต.อ.สุภคม ชูช่วย รอง สวป.สภ.กะรน ได้รับแจ้งจาก คุณหมอเจ้าของคลินิกแห่งหนึ่ง ว่ามี นักท่องเที่ยวรัสเชีย มีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เนื่องจากดื่มสุรา มีอาการฉุนเฉียวและโวยวาย ในลักษณะที่ควบคุมตัวเองไม่ใด้ ต้องการให้คุณหมอ รับตัวไว้รักษา คุณหมอเกิดความกลัวว่าจะถูกทำร้าย จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ

ร.ต.อ.สุภคม หัวหน้าชุดปฏิบัติการจราจร เมื่อรับแจ้งเหตุจึงได้พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เนื่องจากสายตรวจระงับเหตุอื่นอยู่ จึงรีบเดินทางไปยังคลินิก พบนักท่องเที่ยวเป็นชาย ทราบชื่อภายหลังว่า นายมาเมดอฟ อายุ 36 ปี สัญชาติรัสเชีย อยู่ในลักษณะโวยวาย ควบคุมสติไม่ได้ ลักษณะคล้ายอาการมึนเมาสุราและมีอาการเครียด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมสถานการณ์โดยการพูดคุยให้สงบสติอารมณ์ด้วยการโน้มน้าวในเรื่องวันเกิดของบุตรสาว ซึ่งนักท่องเที่ยวหลุดปากออกมาว่าเสียใจที่มิได้จัดงานวันเกิดให้เพราะมัวแต่ดื่มสุรา และนายมาเมดอฟ ต้องการกลับไปพบบุตรสาว เพื่ออวยพรวันเกิด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเจรจาให้นายมาเมดอฟเดินทางกลับที่พัก โดยใช้อุบายซื้อขนมเค้กวันเกิดไปอวยพรวันเกิดให้กับบุตรสาว นายมาเมดอฟ มีอาการสงบลง และตอบตกลงตามเงื่อนไขดังกล่าว และได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางกลับไปยังที่พัก

เมื่อเดินทางไปถึงที่พักของนายมาเมดอฟ จึงได้เคาะประตูเรียก มีภรรยาของนายมาเมดอฟ ออกมาเปิดประตู และได้นำตัวนายมาเมดอฟ ส่งคืนให้กับครอบครัว พร้อมกับมีการจุดเทียนเค้กวันเกิดให้กับบุตรสาว นายมาเมดอฟ และครอบครัว จึงแสดงความขอบคุณกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุการณ์จึงสงบลงโดยไม่มีการสูญเสียใดๆ ทั้งชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินเกิดขึ้น

เหตุการณ์ดังกล่าว จึงเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความรวดเร็ว และใช้ปฏิภาณไหวพริบในการระงับเหตุ ทำให้ไม่เกิดความสูญเสียทั้งทางชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น โดยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ได้มีเจ้าหน้าที่ของโรงแรมถ่ายภาพวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน จึงชี้แจงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน