สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานงานว่า ชาวเมียนมาลงหลักปักฐานในไทยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศคุกรุ่น โดยนายสมบูรณ์ ซึ่งเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์เชื้อชาติเมียนมาใช้ประสบการณ์ 30 ปีในไทยให้คำแนะนำกับเพื่อนร่วมชาติที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในไทย
ทั้งนี้ นายสมบูรณ์ระบุว่า ลูกค้าจากเมียนมาพุ่งทะยานขึ้นนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อการรัฐประหารเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเหตุความรุนแรงและปัญหาเศรษฐกิจในประเทศกดดันให้ชาวเมียนมาจากรัฐฉานเข้ามาซื้อบ้านหลังที่ 2 ตามแนวพรมแดนในไทย เพื่อเตรียมความพร้อมหากต้องอพยพลี้ภัย ขณะที่ชาวเมียนมาคนอื่น ๆ ที่ทำงานหรือเรียนหนังสือในไทยอยู่แล้วก็ตัดสินใจอยู่ต่อไม่กลับภูมิลำเนา
“ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากรัฐฉานและพวกเขามีสมาชิกครอบครัวที่อาศัยอยู่ในไทยมานาน” นายสมบูรณ์กล่าวกับสำนักข่าวนิกเกอิเอเชีย พร้อมเสริมว่า “พวกเขาต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองในจังหวัดเชียงใหม่”
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของไทยระบุว่า จำนวนคอนโดมิเนียมในไทยที่ขายให้กับประชาชนจากเมียนมาในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 พุ่งขึ้น 6 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2564 สู่ระดับ 188 ยูนิต
ขณะที่ในระหว่างการสัมนาผ่านระบบทางไกลของตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในย่างกุ้งเมื่อเดือนพ.ย.ระบุว่า ชาวเมียนมา 12 คน จากทั้งหมด 50 คนที่เข้าร่วมการสัมนาแสดงความสนใจที่จะซื้อคอนโดมิเนียมในไทย
นายมิน เทด ไนง์ ชาวเมียนมาวัย 36 ปี อาศัยอยู่ในไทยตั้งแต่ได้รับทุนศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี 2547 โดยเขาไม่เคยกลับบ้านเกิดอีกเพราะปัญหาด้านความปลอดภัยและเศรษฐกิจ
“ผมอยากซื้อที่ดินผืนเล็ก ๆ สักผืนเพื่อสร้างบ้านในไทยให้กับลูกชาย แม้ว่าผมต้องดำเนินการผ่านนอมินีก็ตาม” นายมิน เทด ไนง์กล่าวกับสำนักข่าวนิกเกอิเอเชีย พร้อมเสริมว่า “ผมอยากให้เขามีการศึกษาที่ดีกว่าในประเทศไทย”
รายงานระบุว่า ปัจจุบันมีแรงงานพม่ากว่า 700,000 รายในไทย โดยคนเหล่านี้อาจต้องการตั้งรกรากในไทยแทนที่จะเดินทางกลับบ้านเกิด