บุญกุศลใหญ่ของชายพิการ บริจาคดวงตา-ตับ-กระดูก ช่วย 17 ชีวิต

บุญกุศลใหญ่ของ ชายพิการวัย 45 ปี อาชีพคนงานโรงงานทอผ้า และอาสาสมัครมูลนิธิ ชาวราชบุรี เกิดช็อกเสียชีวิต ครอบครัวบริจาคอวัยวะ ดวงตา ตับ และ กระดูก เนื้อเยื่อ มอบ 17 ชีวิตใหม่

(14 ธ.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลราชบุรี ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณยกย่องครอบครัวของ นายโสภณ ดิษณะ อายุ 45 ปี ชาวบ้าน ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง จ.ราชบุรี ผู้วายชนม์ ที่เสียชีวิตจากสภาวะเลือดออกในสมอง โดยมี นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี และ แพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และนายรถณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ร่วมกันมอบใบประกาศเกียรติคุณยกย่อง นายโสภณ ผู้เสียชีวิตที่ได้บริจาค อวัยวะมอบชีวิตใหม่ 17 ราย ให้กับทาง นางสมศิริ ดิษนะ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นมารดาของนายโสภณ พร้อมทั้งมอบพวงหรีดดอกไม้สด เพื่อเป็นการร่วมไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับทางครอบครัว ของนายโสภณ โดยมีสื่อมวลชนจากหลายสำนักร่วมทำข่าว

โอกาสเดียวกัน นายรถณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เป็นผู้แทนสภากาชาดไทย ได้อ่านประกาศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย มีพระราชเสาวนีโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า “นายโสภณ ดิษณะ ได้บริจาค ตับ และ ดวงตา ให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะและดวงตาสภากาชาดไทย ซึ่งสภากาชาดไทยได้นำไปช่วยเหลือกับผู้ป่วยตามเจตนารมณ์แล้ว ขอกุศลกรรมที่ได้บำเพ็ญเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วย จงเป็นอานิสงส์ดลบันดาลให้ นายโสภณ ดิษณะ ประสบกับความเกษมสำราญในสัมปรายภพชั่วนิรันดร์ และครอบครัวมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงปรารสจากโรคภัยอายุยืนนาน ให้ไว้ ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2565”

นายแพทย์ อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา นายโสภณ ดิษณะ อายุ 45 ปี ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลราชบุรีด้วยอาการชักเกร็งเรียกไม่รู้สึกตัว 1 ชั่วโมงก่อนมาถึงโรงพยาบาลราชบุรี หลังจากนั้นได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชบุรีได้รับการตรวจรักษาและส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง พบว่ามีภาวะเลือดออกในสมองโดยได้เข้าพักรักษาตัวในหอผู้ป่วยศัลยกรรมระบบประสาท 1 เนื่องมาจากนายโสภณมีโรคประจำตัวอยู่เดิมคือความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ซึ่งเคยผ่าตัดใส่ขดลวดเมื่อเข้ารับการรักษาพบว่าผู้ป่วยมีเลือดออกในปริมาณมากมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้

นายแพทย์ อนุกูล กล่าวต่อว่า นายโสภณ มีสถานะโสด อาศัยอยู่กับมารดาและน้องสาวโดยมีสุขภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรง อีกทั้งนายโสภณป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่กำเนิด “แขนขาซีกขวาที่รีบเล็กกว่าด้านซ้าย” แต่สามารถดำรงชีวิตและเข้าทำงานในโรงงานทอผ้าเพื่อหาเลี้ยงชีพและครอบครัวได้ อีกทั้งยังมีภาวะความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เคยเข้ารับการผ่าตัดเพื่อใส่ขดลวด

โดยทางโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีได้แจ้งเรื่องการขอรับบริจาคอวัยวะกับทางมารดา ของนายโสภณ พร้อมทั้งแจ้งอาการของของนายโสภณ ทางมารดาและครอบครัวของนายโสภณ จึงประสงค์ที่จะบริจาคดวงตาและอวัยวะทุกส่วนที่จะนำประโยชน์ ไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่สิ้นหวังและยังเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ให้กับตัวผู้ป่วยเอง โดยมารดาผู้ป่วยคิดว่าชาตินี้ผู้ป่วยมีสุขภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์หากเมื่อเกิดใหม่ชาติหน้าจะได้มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงและอายุยืนยาว

ภายหลังจากที่ทางมารดาและครอบครัวของนายโสภณ ได้ประสงค์บริจาคอวัยวะ ทางทีมแพทย์สภากาชาดไทย พร้อมด้วย ทีมแพทย์ศูนย์เนื้อชีวภาพกรุงเทพฯในพระอุปถัมภ์ฯ จึงได้ผ่าตัดนำอวัยวะที่สามารถนำไปใช้ได้ประกอบด้วย ดวงตา 2 ข้าง ตับ และ กระดูกแขน-ขา พร้อมเนื้อเยื่อ รวมทั้งหมด 17 ชิ้น นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังรอการปลูกถ่ายอวัยวะทั้งหมด 17 ราย ทั้งนี้ ดวงตา 2 ข้าง และ ตับ ทางสภากาชาดได้นำส่งมอบให้กับทางโรงพยาบาลได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้กับผู้ป่วยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างพักฟื้น ในส่วน ดวงตาได้ทำการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยแล้ว 2 รายเช่นกัน

นายแพทย์ อนุกูล กล่าวอีกว่า สำหรับนายโสภณ ดิษณะ นับเป็นรายที่ 3 ภายในเดือนเดียวกัน ของโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี รายแรก 14 พ.ย. 65 นายอชิระ กัญญา ชาว จังหวัดสมุทรสงคราม บริจาคอวัยวะช่วยเหลือ 15 ชีวิต รายที่สอง วันที่ 30 พ.ย. 65 นางแสงจันทร์ คุณฮวย อายุ 48 ปี ชาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี บริจาคอวัยวะช่วยเหลือ 18 ชีวิต และ นายโสภณ ดิษณะ รายที่ 3 ชาว อ.เมืองราชบุรี บริจาคอวัยวะช่วยเหลือ 17 ชีวิต รวมแล้วทั้ง 3 รายสามารถนำอวัยวะไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้จำนวน 50 ราย ให้สามารถมีชีวิตและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ขณะที่บรรยากาศพิธีบำเพ็ญกุศลศพ นายโสภณ ดิษณะ ครอบครัวได้นำร่างอัญไร้วิญญาณ ภายหลังจากที่ทางโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีได้ทำการผ่าตัดนำอวัยวะออกจากร่างกายและนำอวัยวะเทียมเข้าไปทดแทนจากนั้นได้ทำการผ่าตัดตกแต่งศพมอบให้ทางครอบครัวนำมาบำเพ็ญกุศลศพที่วัดบางศรีเพชร ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายโสภณ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติ และ เพื่อนบ้าน ผู้ที่รู้จักมักคุ้นกับทางนายโสภณ และ ครอบครัวของนายโสภณ ได้เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจกับทางครอบครัว

อย่าง น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี หลังจากทราบข่าวได้เดินทางมาเคารพศพนายโสภณ และ ให้กำลังใจกับทาง นายสุพร ดิษนะ อายุ 72 ปี และ นางสมศิริ ดิษนะ อายุ 62 ปี พ่อและแม่ของนายโสภณ โดยทั้งคู่ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวพร้อมทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้พ่อและแม่ยังไม่สามารถที่จำทำใจได้ เพราะเลี้ยงดูนายโสภณมาตั้งแต่เกิด นายโสภณ เป็นลูกชายคนโต ตอนเกิดมาไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จนกระทั่งอายุ 7 ขวบ เริ่มมีอาการแขนขาซีกขวาไม่มีแรง จนกระทั่งมารู้ว่าเป็น โปลิโอ เดินไม่ได้ เสียการทรงตัว แต่ทางซ้ายแข็งแรงดี

หลังจากโตเป็นหนุ่ม ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ผลต่อการดณรงค์ชีวิต นายโสภณเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่นแม้ตนเองร่างกายจะพิการ อาสาช่วยงานต่างๆ ในหมู่บ้าน และยังเป็นจิตอาสามูลนิธิด้วย เป็นที่รักของคนทั่วไป จนเมื่อ 5 ปี ก่อนทางโรงงานทอผ้า ได้เปิดโอกาสให้ทางคนพิการสามารถเข้าสมัครทำงานได้ นายโสภณ ก็ได้เข้าไปทำงานได้ค่าแรงวันละ 305 บาท เงินเดือนที่ได้มาก็จะนำมาให้พ่อกับแม่เก็บไว้ใช้ ไม่ยอมเอาเงินไว้ติดตัว เป็นลูกยอดกกตัญญูเลยก็ว่าได้

วันนี้สูญเสีย ลูกไปแล้ว จึงตัดสินใจมอบให้กับทางโรงพยาบาลเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยคนอื่นๆต่อ เพราะมีความคิดว่า หากลูกชายเกิดชาติหน้าก็ขอให้มีร่างกายที่สมบูรณ์ไม่มีความพิการเหมือนในชาตินี้ ส่วนศพนายโสภณ ดิษณะ ทางครอบครัวได้ตั้งศพไว้บำเพ็ญกุศลที่วัดเป็นเวลา 4 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2565 เวลา 16.00 น.