ผบ.ตร. นัดกินข้าว “ชูวิทย์” เคลียร์ใจปมแฉคดีตู้ห่าว บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก ร่วมโต๊ะด้วย

ผบ.ตร. นัดกินข้าว “ชูวิทย์” เคลียร์ใจปมแฉคดีตู้ห่าว บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก ร่วมโต๊ะด้วย ขาด ผบช.น. ติดภารกิจสำคัญ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้า คดีตู้ห่าว ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักธุรกิจอาบอบนวด ได้ติดตามมาโดยตลอด ขณะนี้เข้าข่ายเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติไปแล้ว ซึ่งอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งคณะทำงานมาแล้ว มีรองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะ มีตำรวจจะร่วมมือการทำงานกับคณะอย่างเร่งด่วน ส่วนคดีฟอกเงินทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ การทำงานในวันนี้ทุกหน่วยงานทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.และสำนักงานคณะป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. จะร่วมมือกัน ประชาชนเมื่อรับทราบจะได้สบายใจขึ้นในเรื่องนี้และจะมีความเชื่อมั่น

วันนี้ได้สั่งให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไปประสานงานกับทีมงานคณะทำงานนอกรอบโดยด่วนก่อนที่จะมีการประชุม เมื่อถามถึงภาพรวมของการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ของ ผบช.น. ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการชี้แจงที่ทาง ผบช.น.ได้ทำมาทั้งหมด แต่บางอย่างไม่อยากให้พูดออกสื่อ เนื่องจากเป็นความลับทางคดี

ผบ.ตร. ยอมรับว่าวันนี้ได้นัดรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันระหว่าง ผบ.ตร. กับ นายชูวิทย์ และมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ส่วน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เนื่องจากติดภารกิจเกี่ยวกับเรื่องสำคัญอยู่ จึงเดินทางมาไม่ได้ แต่จะไปคุยกันนอกรอบเรื่องข้อมูลต่างๆ โดยระหว่างการทานอาหารก็จะคุยกันในหลายๆ เรื่องจะได้เข้าใจกันมากขึ้น เนื่องจากยังไม่เจอกัน บางทีการคิด ก็ต่างคนต่างคิด อาจจะมีมุมมองที่ต่างกัน วันนี้ก็คงได้คุยกันถือเป็นโอกาสอันดี

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กล่าวว่าตนเองเป็นประชาชน เป็นเรื่องปกติที่ผมจะมาถามตำรวจ เพราะคดีสำคัญอย่างนี้สังคมก็ต้องสงสัย ความขัดแย้งหรือความไม่เห็นด้วยก็เป็นไปโดยบริสุทธิ์ใจ ทั้งตำรวจในการทำงาน ประชาชนอย่างผมในการเปิดเผย อย่าไปคิดในเรื่องของการขัดแย้งเป็นว่าขัดแข้งขัดขา เพราะผมไม่ได้มามีตำแหน่งแห่งหน ผมเป็นเพียงประชาชนคนธรรมดา แต่เมื่อเปิดเผยเรื่องนี้ไปมีความเสียหายทั้งสังคมและเศรษฐกิจ ทางตำรวจเขาดำเนินการก็คงจะต้องติดขัดบ้างในเรื่องระยะเวลา หรือการทำงาน ซึ่งผมถือว่าเป็นเรื่องปกติ พร้อมระบุว่า วันนี้เสียดายที่ ผบช.น.ไม่มาร่วมโต๊ะกินข้าวด้วย เพราะถ้าได้มาทานข้าวด้วยกันคุยกัน จะได้นำข้อมูลบางอย่างมอบให้ไป และจะได้บอกตนเองได้ว่าข้อมูลไหนพูดได้อันไหนอยู่ในสำนวน จะได้เข้าใจ ทั้งนี้ผู้สื่อถามว่า เมื่อรับประทานอาหารร่วมกันแล้วจะเลิกแฉหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ผมไม่ได้ไปแฉอะไร