ผู้หญิงอิสราเอลเล่าเรื่องการป้องกันครอบครัวจากผู้ก่อการร้ายฮามาสที่พยายามบุกเข้า ‘ห้องปลอดภัย’

หญิงชาวอิสราเอลเล่าถึงช่วงเวลาที่ต้องป้องกันครอบครัวจากผู้ก่อการร้ายฮามาสที่พยายามบุกเข้ามาใน ‘ห้องปลอดภัย’

“เราเริ่มได้ยินเสียงตะโกนเป็นภาษาอาหรับ และเราก็เข้าใจว่าผู้ก่อการร้ายได้เข้ามาในกิบบุตซ์แล้ว สถานการณ์นี้แตกต่างจากที่เราเคยอยู่อย่างสิ้นเชิง” มิชัล ราวาฟ ผู้อาศัยอยู่ในกิบบุตซ์นิริมเล่าให้กับสํานักข่าว TPS

ราวาฟอยู่ในบ้านของเธอในตอนเช้าตรู่ของวันเสาร์ เมื่อได้ยินเสียงเตือนภัยดังขึ้นในกิบบุตซ์ เธอรีบวิ่งไปพาสองคนลูกๆ และตัวเองเข้าไปอยู่ใน “ห้องปลอดภัย” ในบ้าน เธอกล่าวว่าในตอนแรกเธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะสื่อต่างๆ ยังไม่ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการโจมตีของฮามาส

จากนั้นเธอได้ยินเสียงปืนดังขึ้นและได้ยินเสียงคนตะโกนเป็นภาษาอาหรับ สามีของเธอเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจและรีบลงมือป้องกันครอบครัวจากผู้ก่อการร้าย

“เขาจัดการยืนประจําที่ตอนต้นของบ้าน ด้านหน้าของบ้าน เพื่อติดตามและสังเกตว่าพวกมันกําลังเข้ามาหรือเปล่า และเมื่อเราได้ยินเสียงพวกมันเข้ามาใกล้ ผมวิ่งไปที่ห้องปลอดภัยแล้วปิดประตู ผมได้ยินสามีของผมเริ่มยิง – เขามีปืนลูกซอง – มีเสียงปืนดังมาก”

ราวาฟกล่าวว่าสามีของเธอได้กลับมาและบอกว่าเขา “ฆ่าผู้ก่อการร้าย” คนหนึ่งที่พยายามเข้ามาในบ้าน คู่สามีภรรยาจากนั้นได้ยิน “เสียงระเบิดดัง” เธอกล่าว

“พวกเขาขว้างระเบิดใส่ประตูห้องปลอดภัย แล้วก็เริ่มยิงใส่มัน รวมทั้งยิงที่หน้าต่างด้วย” ราวาฟกล่าว “ตลอดเวลานั้น ผมมีเด็กๆ นอนอยู่กับพื้น ตกใจกลัว ใต้เกราะกันกระสุนที่เรามี”

เธอกล่าวว่าเธอและสามีของเธอหันปืนไปทางประตูห้องปลอดภัย และบอกกันว่า “อะไรก็ตามที่เข้ามา เราพร้อมแล้ว”

ราวาฟกล่าวว่าเธอส่งข้อความอย่างตื่นตระหนกไปขอความช่วยเหลือ แต่ครอบครัวยังคงอยู่ในบ้านอย่างน้อย 7 ชั่วโมงก่อนที่ทหารอิสราเอลจะมานําพาไปยัง “จุดรวมพล” ในกิบบุตซ์ ครอบครัวยังรอการอพยพออกจากพื้นที่

รัฐบาลอิสราเอลได้ประกาศสงครามอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ประเทศประกาศสงครามนับตั้งแต่สงครามยมคิปปูร์ในปี 1973 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 700 คนในอิสราเอลจากการโจมตี ในขณะที่มีรายงานว่ามีผู้หญิงและเด็กถูกจับเป็นตัวประกันโดยผู้ก่อการร้ายฮามาส