มหากาพย์คดีแตงโม นัดสืบพยาน 48 นัด ถึง ส.ค.67 กระติก-แซน พ้อข้าราชการข่มขู่

มหากาพย์คดีแตงโม พยาน 139 ปาก นัดสืบพยาน 48 นัด นัดสุดท้าย 20 ส.ค. ปี 67 “กระติก-แซน” เผยเหมือนถูกข้าราชการข่มขู่

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 22 ธ.ค.65 ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา ซึ่งเข้าสู่ในกระบวนการยุติธรรมชั้นศาลจังหวัดนนทบุรี โดยในวันนี้เป็นการนัดตรวจพยานในคดีของทั้งสองฝ่ายตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความส่วนตัวของกระติก เปิดเผยว่า ในคดีนี้จะมีการสืบพยานจำนวน 139 ปาก ซึ่งเป็นพยานฝ่ายโจทย์ทั้งหมด ส่วนฝ่ายจำเลยมีพยานประมาณ 40 ปาก โดยนัดแรกซึ่งเป็นนัดเริ่มต้นวันที่ 2 มี.ค.66 จากนั้นจะมีสืบพยานทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 16 ส.ค.ปี 67 จำนวน 48 นัด จึงจะจบสิ้นในการนัดสืบพยานคดีนี้ ซึ่งใช้เวลาประมาณปีกว่าๆ

ด้าน กระติก หรืออิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ และแซน หรือวิศาพัช มโนมัยรัตน์ สองจำเลยในคดีแตงโม นิดา ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการนัดตรวจพยานที่ศาลจังหวัดนนทบุรี

โดยกระติกได้กล่าวว่า วันนี้เพิ่งจะตกลงนัดกันได้ลงตัว ซึ่งมีนัดจำนวนเยอะมาก เดือนหนึ่ง อาจจะต้องมาหลายครั้ง เพราะพยานหลักฐานเยอะทั้งสองฝ่ายเยอะ ขนาดศาลเองยังบอกว่าพยานหลักฐานคดีเยอะชนิดที่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน

ซึ่งในการพิจารณาครั้งนี้ ตนได้เข้าไปสวัสดีทักทายคุณแม่แตงโมตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ประเด็นที่ว่าคุณแม่ไม่ติดใจจำเลยหนึ่งกับสอง (ปอและโรเบิร์ต) แต่อาจจะติดใจจำเลยคนอื่นๆ นั้น ตนไม่ทราบหยั่งถึงในจิตใจของคุณแม่ว่าคิดอะไรยังไง มองว่าเป็นเพียงความเห็นของคุณแม่ ตนไม่ได้อะไรอยู่แล้ว เพราะเจอกันก็ทักทายคุยตามปกติ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นเลย

ส่วนความมั่นใจในการต่อสู้คดี ตนมีความมั่นใจและเน้นเอาความจริงมาต่อสู้เป็นหลัก แต่จากการที่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคน ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนถึงความมั่นใจในคดีชนิดถึงขั้นเปิดศึกกับฝ่ายตนนั้น ซึ่งตนเพิ่งมานั่งดูผ่านสื่อหลังพิจารณาเสร็จสิ้น เลยแปลกใจมาก เพราะตามปกติ เมื่อคดีถึงชั้นศาลแล้ว ก็ไม่ควรเอาเรื่องในคดีมาพูดต่อสาธารณะอีก แต่บุคคลดังกล่าวเอามาพูดแบบมั่นใจมาก คล้ายจะเป็นการเปิดศึก ตนก็เลยรู้สึกสงสัยว่า เกลียดอะไรตนหรือจำเลยหนึ่งในหกรึเปล่า ที่ผ่านมาก็เห็นว่าคดีใหญ่ ๆ ก็ไม่เคยเห็นผู้ใหญ่ออกมาพูดอะไรแบบนี้เลย แสดงว่าตอนนี้เราคือศัตรูกันใช่ไหม

ทั้งที่ผู้เสียหาย (คุณแม่แตงโม) ก็ยังปกติกับเราทุกประการ จึงเกิดความสงสัยในกระบวนการยุติธรรมและสงสัยว่า การพูดเช่นนี้เข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ เพราะเคยมีนักกฎหมายผู้ใหญ่บอกกับตนว่า หากคดีก็ยังไม่ถึงที่สุดหรือมีคำพิพากษา เมื่อคดียังอยู่ในศาลก็ไม่ควรออกมาพูดเช่นนี้ ฝ่ายเราเองก็มีสิทธิต่อสู้คดี พอเจอคำพูดแบบนี้ก็เหมือนรู้สึกว่าฝ่ายตนกำลังถูกข่มขู่ เป็นการใช้อารมณ์นำ ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในคดีใหญ่ๆ มาก่อน

ด้านของแซนกล่าวว่า ตนเห็นจากข่าวก็งงว่า การที่ (อัยการดาว) เผยว่ามั่นใจในคดีและพยานหลักฐานมาก ตนงงว่าเอาอะไรมามั่น พยายามขยี้ประเด็นว่ามีพยานหลักฐานพร้อมเอาผิด จนทำให้กลายเป็นการชี้นำสังคมให้ประชาชนเข้าใจตนผิดกับฝั่งตน ทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสิน เขาเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ การจะพูดอะไรก็ควรมีสติยับยั้งชั่งใจสักนิด ไม่ใช่ออกมาพูดอะไรจนมีผลกระทบกับคนบนเรือ

ที่ผ่านมาพวกตนก็ตกเป็นจำเลยสังคมมามากพอแล้ว ต้องให้การปฏิเสธในสิ่งที่ตนมั่นใจอยู่เหรอ การที่ย้ำว่าพวกเราประมาท เลยขอถามกลับไปว่า คุณอยู่บนเรือเห็นพวกเราเหรอ รู้สึกว่าเกินไปมาก เขาทำแบบนี้เหมือนหิวแสงคล้ายดาราบางคนที่ชอบออกมาต่อว่าพวกเราเหรอ ต้องลองถามเขาดูว่าทำเพื่ออะไร ควรสงสารคนอื่นที่ต้องมารับผลจากการกระทำของตัวเองบ้าง

ขณะที่ พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน กล่าวถึงกระบวนการพิจารณาคดีหลังจากนี้ว่า ศาลเตรียมนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์จำนวน 36 นัด ฝ่ายจำเลย 12 นัด รวมทั้งสิ้น 48 นัด ซึ่งฟากของอัยการได้เตรียมพยานบุคคลจำนวน 139 ปากมาสืบพยาน ส่วนฝ่ายจำเลยรวมๆ มีพยานบุคคลทั้งสิ้น 40 ปากที่จะนัดสืบ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาการสืบพยานถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2567

ซึ่งหลังจากนี้จะนัดพร้อมให้ทั้งสองฝ่ายแถลงความพร้อมเรื่องการสืบพยานหรือแนวทางการต่อสู้คดีในวันที่ 2 มีนาคม เวลา 9:00 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรีและนัดสืบพยานนัดแรกวันที่ 23 สิงหาคม 2566 เมื่อนัดสืบครบถ้วนทั้ง 48 นัดแล้ว ศาลก็จะพิพากษาตัดสินคดีในชั้นต้นต่อไป