ย้อนวีรกรรม “เค ร้อยล้าน” คลุ้มคลั่งป่วนซ้ำซาก สังคมถาม ทำอะไรไม่ได้เลยหรือ?

ย้อนวีรกรรม “เค ร้อยล้าน” สร้างความวุ่นวายซ้ำซาก ยังลอยนวลก่อเหตุไม่หยุด สังคมตั้งคำถาม กฎหมายทำอะไรคนๆ นี้ไม่ได้เลยหรือ?

กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง สำหรับ นายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ เค ร้อยล้าน  หลังก่อเหตุสร้างความวุ่นวายที่งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยเข้าล็อกคอ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มาร่วมแจกลายเซ็นในบูธก้าวไกล โดย นายคเณศพิศณุเทพ ได้ตะโกนว่า มีระเบิด ทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมงานแตกตื่น วิ่งหนีกันอลหม่าน

สำหรับประวัติ นายคเณศพิศณุเทพ  จักรภพมหาเดชา นักธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของร้านตัดสูทให้โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งแต่เปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ เคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วถึง 5 ครั้ง โดยใช้ชื่อกลับกันไปมา และเปลี่ยนนามสกุลอีก 1 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2546 โดยชื่อที่ นายคเณศพิศณุเทพ เคยเปลี่ยน ได้แก่ ณัฐศักดิ์ธาน, ณัฐศักดิ์ญาณ, พงศ์พิษณุเทพ, กันต์ฐพงศ์ จนมาถึงชื่อปัจจุบัน

ปี 2549 ในช่วงเกิดการรัฐประหาร “เค ร้อยล้าน” ซึ่งขณะนั้นใช้ชื่อว่า “กันตฐพงศ์ จักรภพมหาเดชา ขับรถยนต์บีเอ็มซีรีส์ 7 ไปจอดอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเลขานุการกองทัพบก  (สลก.ทบ.)  พร้อมทั้งตะโกนเสียงดังว่า “ทหารทำดีมาก เราต้องสู้จนตาย แม้ว่าจะมีเงินเยอะ แต่ก็ไม่มีความสุข ทำดีแล้ว เราต้องสู้ต่อไป” นอกจากนี้ยังพ่นสเปรย์สีแดงเขียนข้อความว่า “ทหารผู้ยิ่งใหญ่”  พร้อมทั้งโทรศัพท์สั่งอาหารมาแจกให้กับทหารที่ดูแลความสงบในช่วงนั้นด้วย

24 เม.ย. 2562 เค ร้อยล้าน ได้ขับรถเบนซ์ รุ่น C350e สีดำ ติดสติกเกอร์รอบคันรถจอดหน้าห้างสรรพสินค้าย่านราชประสงค์ นำกรอบรูปมาวางไว้หน้ารถ และโปรยดอกไม้รอบรถยนต์ พร้อมกับนำงูเห่าออกมาปล่อยบนพื้นถนน 2 ตัว มีอาการคลุ้มคลั่งกรีดแขนตัวเอง และกวัดแกว่งอาวุธมีดเดินไปมาอยู่ย่านประสงค์ อ้างว่าสาเหตุที่ทำไป เพราะศรัทธาในพระพุทธเจ้าและศาสนา นับถือหลวงปู่ศุข และพลังจากพระอาทิตย์ โดยในช่วงเกิดเหตุ หลวงปู่ศุขบอกว่า ให้ตนมารับพลังจากแสงอาทิตย์ เพื่อให้โลกพ้นภัย พร้อมกับนำงูเห่า 2 ตัว ที่เป็นบริวารของพระศิวะมาด้วย 

1 ก.พ.2565 เค ร้อยล้าน ขับรถยนต์หรูสีแดงมาจอดที่บริเวณหน้าห้าง ฝั่ง ถ.ราชดำริ ก่อนใช้อาวุธมีดยาว 1 เล่ม พยายามปาดต้นคอตัวเอง พร้อมทั้งปาขวดลงพื้น และปล่อยงูเห่า กรีดแขนตัวเองจนเลือดไหลนองเต็มพื้นถนน แล้วลงไปนอนกลิ้งไปมา 

13 ก.พ.2565 เค ร้อยล้าน ก่อเหตุเอาสีราดตัวเองที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านปทุมวัน และ ไปยืนตะโกนโวยวายสนามบินสุวรรณภูมิ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก และเช็กอินที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จำนวน 2 ครั้ง โดยเป็นข้อความเชิงข่มขู่ พร้อมภาพงูพิษ 

24 ก.พ. 2565 เค ร้อยล้าน โดนจับที่มุมไบ ประเทศอินเดีย ต้องโทษจำคุก 3 เดือน ฐานสร้างความวุ่นวาย เข้าข่ายกระทำความผิดซ้ำซาก

10 พ.ค.2565 เค ร้อยล้าน เดินปรี่เข้าไปหา นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า ที่เข้าร่วมกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อขอคืนสิทธิประกันตัวให้นักโทษทางการเมือง บริเวณสกายวอร์ก แยกปทุมวัน  โดยได้กล่าวต่อว่า ก่อนจะใช้มือตบใส่บริเวณใบหน้าของป้าเป้า จนล้มลงไปกองกับพื้น 

12 มิ.ย.2565 เค ร้อยล้าน ได้เดินเท้าเข้าพื้นที่ชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ตะโกนโวยวายด่าทอผู้ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนแสดงความไม่พอใจ ขอร้องให้ทางเจ้าหน้าที่คุมตัวออกนอกพื้นที่ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะตัดสินใจคุมตัวนายเคขึ้นรถสายตรวจไปสงบสติอารมณ์

23 ต.ค.2565 เค ร้อยล้าน หลังก่อเหตุสร้างความวุ่นวายที่งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเข้าล็อกคอ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งกำลังแจกลายเซ็นให้ผู้ซื้อหนังสือ โดยได้ตะโกนว่า มีระเบิด ทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมงานแตกตื่น วิ่งหนีกันอลหม่าน ต่อมาเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ สน.ลุมพินี ได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม สังคมโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายคเณศพิศณุเทพ ก่อเหตุสร้างความวุ่นวายในสังคมมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่เหตุใดจึงยังคงลอยนวลในสังคมและกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งที่ผ่านมามีความผิดเพียงลหุโทษ โทษจำคุกเพียงไม่นานก็ได้ประกันตัว หรือเจอโทษปรับเป็นเงินเพียงเล็กน้อย ไม่สะเทือนกับทรัพย์สินที่เจ้าตัวมี โดยมีการตั้งคำถามว่า ไม่มีใครหรือหน่วยงานใดจะสามารถควบคุมหรือเอาผิดได้อย่างเด็ดขาดเลยหรือ?

ล่าสุด ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น. กล่าวถึงกรณี นายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ เค ร้อยล้าน บุกประชิดตัว ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวไกล ขณะเข้าร่วมงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ จนเกิดความวุ่นวายขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายหลังจากที่ตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุส่งไปยังโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาเพื่อตรวจสอบสภาพอาการทางจิตว่าเข้าข่ายเป็นผู้มีความผิดปกติทางจิตหรือไม่ แพทย์ได้ทำการตรวจอาการเพื่อประเมินวิเคราะห์ในเบื้องต้นแล้ว แต่ลูกชายของผู้ก่อเหตุได้มาติดต่อขอรับตัวกลับไปรักษาที่บ้านเอง 

ซึ่งต่อมาแพทย์อนุญาตให้นำตัวกลับไปรักษาที่บ้านได้ โดยพนักงานสอบสวนได้มีการนัดหมายให้ผู้ต้องหามารายงานตัวในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ เพื่อนำตัวเข้าขั้นตอนส่งฟ้องต่อศาล ในข้อหาทำให้ผู้อื่นตื่นตกใจฯ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท 

พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าวต่อไปว่า  นายธนาธรได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ระบุข้อหาดังกล่าวลงไปชัดเจนว่าเป็นการทำร้ายร่างกายถึงขั้นใด ต้องรอให้ธนาธรนำผลตรวจของแพทย์มายืนยันว่าเป็นการได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ หากเป็นการได้รับบาดเจ็บสาหัสจะเรียกตัวผู้ก่อเหตุเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีก ขณะที่ผู้จัดงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติก็เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุเพิ่มเติมอีกหลายข้อหา แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้จัดงานจะแจ้งข้อหาใดกับผู้ก่อเหตุบ้าง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เตรียมรับแจ้งความในกรณีดังกล่าวไว้แล้ว และอาจพิจารณาเรียกตัวผู้ก่อเหตุเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในลำดับถัดไป 

พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าพฤติการณ์ที่ปล่อยให้ผู้ก่อเหตุออกมาทำความเดือดร้อนให้กับบุคคลและประชาชนโดยส่วนใหญ่หลายครั้ง ซึ่งหากนับรวมกันแล้วมากกว่า 3-4 ครั้งขึ้นไป จะเข้าข่ายเป็นการปล่อยปละละเลยไม่ดูแลผู้ป่วยจนทำให้เกิดความเดือดร้อนหรือไม่ หากพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายก็จำเป็นต้องดำเนินคดีกับญาติหรือผู้ดูแลที่ระบุไว้ในคดีก่อนหน้านี้