กองปราบ รวบหนุ่มเวียดนาม สวมสิทธิ์บัตรประชาชนคนไทย ปลอมเอกสารที่ดิน ก่อนขายทอดตลาด พบชาวบ้านทั่วภาคอีสานเสียหายหลายราย
ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายกิตตินันท์ฯ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.314/65 ลงวันที่ 5 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้ ตนเองมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ, แจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตรใหม่, แจ้งความอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจทําให้ผู้อื่น หรือประชาชนได้รับความเสียหายฯ และแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่กระทําตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยจับกุมได้บริเวณบ้านพัก ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนเมษายน 2566 กองบังคับการปราบปราม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มชาวบ้านว่าถูกกลุ่มนายทุนชาวเวียดนามร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้ากรมที่ดิน เอาคนสัญชาติเวียดนามที่มีทุนทรัพย์ มาสวมสิทธิ์ทำบัตรประชาชนเป็นคนไทย เพื่อทำธุรกิจ รับซื้อ-ขายฝากที่ดิน นำใบโฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ สร้างข้อมูลเท็จเปลี่ยนแปลงเพิ่มยอดหนี้มากขึ้น โดยการปลอมรายละเอียดในเอกสารหลังโฉนดที่ดินระบุเป็นชื่อ นายกิตตินันท์ฯ เป็นผู้มีอำนาจขายฝากในโฉนดที่ดิน
โดยมีเจ้าหน้าที่กรมที่ดินลงลายมือชื่อรับรอง ก่อนมีการนำไปขายทอดตลาด เป็นเหตุให้ผู้เสียหายถูกฟ้องขับไล่ออกจากที่ดินของตน ซึ่งได้มีการกระทำความผิดในพื้นที่ จ.อุดรธานี, จ.หนองบัวลำภู และ จ.หนองคาย มีประชาชนตกเป็นผู้เสียหายหลายรายมีพฤติการณ์ก่อเหตุต่อเนื่องโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
จากการสืบสวนทราบว่า เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2565 นายกิตตินันท์ฯ ได้ยื่นคำร้องขอทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองอุดรธานี แต่นายทะเบียนได้ทำการตรวจสอบพบว่า นายกิตตินันท์ฯ ไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทย โดยนำเอกสารปลอมมายื่น จากการตรวจสอบทราบว่า นายกิตตินันท์ฯ มีชื่อจริง คือ นายมินฯ สัญชาติเวียดนาม โดยเมื่อปี 2540 ได้สวมบัตรเป็นนายอนุสรณ์ฯ ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองคาย
และต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อจริง พร้อมนามสกุลใหม่ เป็นนายกิตตินันท์ฯ จึงถูกนายทะเบียนดำเนินคดี และถูกศาลจังหวัดอุดรธานีออกหมายจับ ที่ จ.314/65 ลงวันที่ 5 พ.ย.65 ข้อหา “แสดงเอกสารอันเป็นเท็จฯ” จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบนายกิตตินันท์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการจับกุมและนำตัวนายกิตตินันท์ฯ ส่งเจ้าหน้าที่ปกครอง ที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา