สํานักงานความช่วยเหลือระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า กําลังกลับมาให้ความช่วยเหลืออาหารแก่ผู้ลี้ภัยในเอธิโอเปียเป็นจํานวนหลายแสนคน หลังจากที่ระงับการช่วยเหลือไป 4 เดือน จากแผนการขโมยอาหารช่วยเหลืออย่างแพร่หลาย
ผู้แถลงข่าวของ USAID กล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลเอธิโอเปียตกลงที่จะถอนตัวออกจากการจัดส่ง การเก็บรักษา และการแจกจ่ายอาหารช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ความช่วยเหลืออาหารจะกลับมาให้กับผู้ลี้ภัยจาก ซูดาน ซูดานใต้ โซมาเลีย เอริเทรีย และที่อื่นๆ ประมาณ 1 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลืออาหารยังไม่กลับมาให้กับชาวเอธิโอเปีย 20.1 ล้านคนที่พึ่งพาอาหารช่วยเหลือ ในขณะที่ประเทศกําลังเผชิญกับความขัดแย้งภายในและภัยแล้ง
สํานักงานดังกล่าวยังระบุว่า ได้นํามาตรการต่างๆ รวมถึงการทดสอบไบโอเมตริกซ์และการติดตาม GPS มาใช้ทั่วการดําเนินงานทั่วโลก เพื่อช่วยแก้ปัญหาความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบน และเพื่อ “ช่วยให้มั่นใจว่าความช่วยเหลืออาหารจะไปถึงผู้ที่ต้องการมากที่สุด”
“เรายังคงทํางานร่วมกับรัฐบาลเอธิโอเปียในการปฏิรูปเพิ่มเติมที่จะช่วยให้มั่นใจว่าความช่วยเหลือจะได้รับการจัดสรรตามความอ่อนไหวและความต้องการที่ประเมินไว้ สอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากลที่ดีที่สุด” ผู้แถลงข่าวของ USAID กล่าว
USAID และ โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ ในเดือนมิถุนายนได้ระงับความช่วยเหลืออาหารทั้งหมดให้กับเอธิโอเปีย หลังจากการสอบสวนภายในพบว่าอาหารบริจาคที่มุ่งหมายให้กับผู้อดอยากนับล้านคนที่นั่นถูกเบี่ยงเบนไปในวงกว้าง ทั้งสองหน่วยงานได้หยุดความช่วยเหลืออาหารให้กับมณฑลทีกรายที่กําลังสู้รบกันไปแล้วในเดือนมีนาคม
ในขณะนั้น เจ้าหน้าที่ USAID บอกกับ สํานักข่าวเอพี ว่า แผนการเบี่ยงเบนอาหารช่วยเหลือนี้อาจเป็นการขโมยอาหารช่วยเหลือมนุษยธรรมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับตั้งแต่นั้นมา มีรายงานการเสียชีวิตนับพันรายที่เชื่อมโยงกับการหยุดให้อาหารช่วยเหลือในทีกราย
WFP เริ่มแจกจ่ายอาหารช่วยเหลือขนาดเล็กในบางพื้นที่ของทีกรายเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ในขณะที่กําลังทดสอบ “การควบคุมและมาตรการเสริม” เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นําของมณฑลทีกรายระบุว่า มีการจับกุม 480 คนในทีกรายสําหรับการขโมยอาหารช่วยเหลือ