สำนักพุทธฯ ตรวจสอบแล้ว คลิปเสียงครูบาอ้อนผู้ชาย เป็นคลิปตัดต่อตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ถูกกลับมาแชร์ใหม่ เชื่อหวังดิสเครดิตวงการสงฆ์
ยังคงมีเรื่องราวในวงการสงฆ์ถูกแฉออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเพจอีซ้อขยี้ข่าว 2 ได้แชร์คลิปเสียงที่ระบุว่าเป็นคลิปหลุดของครูบารูปหนึ่งทางภาคเหนือ ระหว่างกำลังเทศนาธรรมออนไลน์ แต่ดันลืมปิดไมค์จึงได้ยินบทสนทนาที่คุยออดอ้อนกับชายหนุ่ม โดยมีน้ำเสียงไพเราะอ่อนหวาน เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกับสมณเพศ
ทีมข่าวตรวจสอบทราบว่าครูบาที่ถูกระบุเป็นเจ้าของเสียงนี้ เป็นเจ้าสำนักสงฆ์ชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ก่อนหน้านี้เคยเป็นเจ้าอาวาสวัดใน อ.เมืองเชียงใหม่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังกรณีเสกพระธาตุ โดยในวันนี้ทางครูบาและสำนักสงฆ์ดังกล่าวยังไม่มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ขณะที่นางสาวอนงค์ จันทร์ฉ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบเรื่องนี้กับพระที่ถูกกล่าวถึงแล้ว ทราบว่าเป็นคลิปเสียงเก่าที่เคยถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียลมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน โดยพระท่านระบุว่าเป็นเสียงของท่านจริงแต่เป็นเสียงที่ถูกตัดต่อ โดยหลายปีที่ผ่านมาท่านได้มีการอัดเสียงเทศน์ธรรมและนำไปโพสต์เผยแพร่ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อเป็นการเผยแพร่ธรรมทางออนไลน์ แต่ละครั้งจะมีการพูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ มีการยกเรื่องเล่าและมุกต่าง ๆ มาสร้างสีสันในการเล่าเรื่องเพื่อให้ญาติโยมสนใจติดตาม และ ทุกคลิปเสียงจะมีทีมงานตรวจสอบก่อนที่จะโพสต์เผยแพร่ ซึ่งพระท่านเชื่อว่าจะมีการนำคลิปเสียงที่โพสต์ไว้หลายตอนมาปะติดปะต่อกันแล้วนำไปเผยแพร่หวังทำลายชื่อเสียง ในครั้งนั้นก็ไม่ได้ติดใจหรือแจ้งความดำเนินคดีกับใคร หลังจากเรื่องเงียบไป ล่าสุดคลิปเสียงเดิมกลับถูกนำมาเผยแพร่อีกครั้ง ซึ่งพระท่านก็ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
แต่หลังจากนี้จะให้ทีมกฏหมายรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่คลิปเสียงซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ เพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและทำลายพระพุทธศาสนา
นางสาวอนงค์ ตั้งข้อสังเกตว่าตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเสื่อมเสียในวงการสงฆ์ออกมาไม่ขาดสายและมีกระแสต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเดิมที่เกิดขึ้นหลายปี จึงห่วงว่าจะมีความพยายามในการทำลายพระพุทธศาสนา จึงอยากให้พระสงฆ์ได้ออกมาตอบโต้บ้างเพื่อปกป้องพุทธศาสนา ส่วนสื่อที่นำเสนอ อยากให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักพุทธศาสนาก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก่อนนำเสนอ เพราะหากจะนำเสนอไปโดยหวังเพียงสร้างกระแสอย่างเดียวก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงขอความร่วมมือสื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้าน