หนุ่มเดือด! บุกแทงเพื่อนบ้านบาดเจ็บ ฉุนปิดสัญญาณ WiFi จนท่องโซเชียลไม่ได้

หนุ่มบุกแทงเพื่อนบ้านบาดเจ็บ ฉุนปิดสัญญาณ WiFi จนท่องโซเชียลไม่ได้ หลังก่อเหตุเดินไปตั้งวงดื่มเหล้าหน้าตาเฉย ตำรวจมาจับเจอโวยวายด่ากราด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.ท.กัมปนาท สุนทรสนิท รอง ผกก.ป.สน.ศาลาแดง รับแจ้งเหตุมีการทำร้ายร่างกายกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณบ้านเช่า ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก ซอย 22 แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย ถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ลำคอเป็นแผลลึกติดกับเส้นเลือดใหญ่ มีเลือดไหลไม่หยุด เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฏร์บางแค ทราบชื่อ นายพนา อายุ 44 ปี ตรวจสอบภายในบ้านพบร่องรอยการต่อสู้ และมีดปอกผลไม้ ยาว 8 นิ้ว ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัฒน์ หรือ นายโอ อายุ 34 ปี ไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังคงตั้งวงดื่มเหล้าในกระท่อม ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ขณะที่ตำรวจเข้าไปสอบถาม ผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมาได้เอะอะโวยวาย ด่ากราดตำรวจ และบอกว่าไม่รู้เรื่อง ตำรวจจึงจับใส่กุญแจมือ คุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ

นายผญา ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้าน เคยพักอยู่ห้องเช่าใกล้กัน และรู้จักกันมานานจน ลูกชายตนได้ให้โทรศัพท์ไปใช้ 1 เครื่อง สามารถเชื่อมต่อกับไวไฟ (WiFi) ที่บ้านของตนเองได้ ก่อนหน้านี้ มีปัญหากันเรื่องนี้มาก่อน ด้วยนิสัยนายธวัฒน์เป็นคนชอบดื่มสุรา เมาแล้วหาเรื่องเพื่อนบ้านตลอด

ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน นายธวัฒน์ได้ตะโกนด่าตนว่าปิดไวไฟทำไม เขาใช้ไม่ได้ ก่อนปาขวดเหล้าใส่ห้องตนจนแตก เศษขวดกระเด็นไปโดนลูกสาวได้รับบาดเจ็บ ตนเองจึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.ศาลาแดง หลังจากนั้นก็ไกล่เกลี่ย เรื่องยุติไป

ในวันที่เกิดเหตุ ช่วง 4 โมงเย็น ตนเองเห็นเพื่อนบ้านอีกคนซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่หน้าห้องพักและได้ไปทักทาย ก่อนจะเข้ามาในบ้านเพื่อเอารถจักรยานยนต์ไปซ่อมแซมด้วย ในจังหวะนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนทะเลาะวิวาท ไล่วิ่งกันตรงประตูทางเข้า โดยคนก่อเหตุได้ทะเลาะกับเพื่อนบ้านอีกคน ตนเองจึงเข้าไปห้าม จากนั้นคนก่อเหตุก็มาทำร้ายตนต่อ จนตนหลบและแยกย้ายกันไป

จนสักพักใหญ่ ขณะนั้นตนเองอยู่ในห้องพัก คนก่อเหตุได้เข้ามาถีบประตูและพังประตูเข้ามาทำร้าย โดยใช้อาวุธมีดทำครัวซึ่งอยู่ในห้องตนเอง มาทำร้ายตนเอง โดนตนยังไม่ทันตั้งตัว คนก่อเหตุเกือบแทงเข้าจุดสำคัญคือเส้นเลือดใหญ่ หมอบอกถ้าโดนอาจถึงแก่ชีวิต โดยหลังเกิดเหตุอาสาสมัครได้ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

ด้าน นางสายใจ อดทน อายุ 44 ปี แฟนคนเจ็บ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ในห้อง ตัวสามีได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ถูกแทงได้รับบาดเจ็บอยู่ในห้อง โดยคนก่อเหตุ คือ นายโอ ได้ถีบประตูบุกมาในห้องและแทงได้รับบาดเจ็บ

ตนเองจึงรีบกลับมาดู พอกลับมาถึงห้องก็พบแฟนนั่งบาดเจ็บ โดยตำรวจที่อยู่ด้านนอกยังไม่ทราบว่าแฟนตนเองบาดเจ็บอยู่ในห้อง ก่อนจะช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

หลังจากนั้นคนก่อเหตุยังนั่งกินเหล้าอยู่กระท่อมข้างทาง โดยไม่หลบหนี โดยในจังหวะที่ควบคุมตัวคนก่อเหตุ นายโอ ได้ด่าและต่อว่าตำรวจแบบเสียๆ หายๆ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนจะนำตัวไป สน.

โดยยังมีการข่มขู่ตนเองด้วยว่า ถ้าออกไปได้จะกลับมาทำร้ายตนเองอีก เท่าที่ทราบตอนนี้ตำรวจได้นำนายโอ คนก่อเหตุไปฝากขังที่ศาลอาญาตลิ่งชันแล้ว ซึ่งถ้าคนก่อเหตุแทงจุดสำคัญของแฟนตนเอง และเสียชีวิตจะทำอย่างไร

ส่วนเพื่อนที่กินเหล้ากับนายโอ คนก่อเหตุ คือ นายบัว อายุ 78 ปี รับจ้าง เล่าว่า คนก่อเหตุทำงานเก็บขยะที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุคนก่อเหตุนั่นมีเรื่องกับชาวบ้านแถวนี้มาก่อน คือ คนก่อเหตุเล่าว่าถูกด่ามาก่อน ก่อนจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทดังกล่าว

โดยคนก่อเหตุได้ดื่มเหล้ากับตนเองไป 4 ขวดแล้ว จนเหล้าหมด ออกไปซื้อเหล้ามาใหม่ แต่ปรากฏว่าพอกลับมาโทรศัพท์ที่วางไว้หาย คนก่อเหตุไม่พอใจ จึงไปทะเลาะวิวาทดังกล่าว

ด้าน เพื่อนบ้าน คนที่มีเรื่องชกต่อยก่อน จะไปแทงนายพนา เล่าว่า ตนเองมีเรื่องชกต่อยกับนายโอ โดยอยู่ดีๆ ก็เข้ามาชกต่อยตนเอง โดยช่วงนั้นตนเองกลับจากไปข้างนอกมา ก่อนที่นายโอจะตามทำร้าย ก่อนที่คนเจ็บจะมาช่วยและห้าม และแยกย้ายกัน ก่อนที่คนเจ็บจะมาถูกบุกแทงในห้อง

ในส่วน นายโอ หรือ นายธวัฒน์ อายุ 34 ปี กล่าวหลังถูกจับกุมอ้างว่า ตนเองนั่งกินเหล้ากับตาบัวไม่ได้ทำอะไร โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ตนเองเคยเช่าห้องอยู่ที่นี่ โดยมีคนออกค่าเช่าห้องให้ ในส่วนคนเจ็บและแฟนสาวนั้น ตนเองก็รู้จัก เพราะมีช่วงหนึ่งตนเองไม่มีเงินจะกินข้าว เคยยืมเงินกับเค้ามาก่อน ทั้งสองเคยให้ยืม ส่วนเรื่องแทงกันนั้น ตนเองไม่รู้

เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง ได้คุมตัวนายโอไปฝากขังศาลอาญาตลิ่งชัน โดยแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา พยายามฆ่า, ทำร้ายร่างกาย และบุกรุกในเคหะสถาน