อดีตพ่อตา “ไอ้อู๋” บุกโรงพักตามรถที่ถูกขโมย ลั่นถ้าจับได้แต่แรก โชเฟอร์หญิงคงไม่ตาย

อดีตพ่อตาหนุ่มฆ่าชิงรถ บุกโรงพักแฉ เคยถูกอดีตลูกเขยขโมยรถกระบะ ถ้าตำรวจเร่งตามจับได้ตั้งแต่ตอนนั้น โชเฟอร์หญิงคงไม่ถูกฆ่า

ความคืบหน้าคดีที่นายวีระนัฐภูมิ หรือ อู๋ ก่อเหตุฆ่ารัดคอนางเกศยุคลธ์ หรือ หมู โชเฟอร์ขับรถแอปดัง จนเสียชีวิต ก่อนชิงรถของผู้ตายหลบหนีและนำศพไปทิ้งดงหญ้าป่าร้าง ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

  • เปิดไทม์ไลน์ หนุ่มวัย 21 กดแอปฯ เรียกรถขอโชเฟอร์ผู้หญิง ก่อนฆ่ารัดคอชิงทรัพย์

(17 ม.ค.66) เมื่อเวลา 09.30 น. นายกฤษดา อายุ 44 ปี เจ้าของรถกระบะนี่ห้อฟอร์ด แรนเจอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ฒล 3555 กรุงเทพ ได้เดินทางมายังโรงพัก สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อรอสอบถามจากปากของ นายวีระนัฐ หรือ อู๋ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังของโรงพัก หลังจากเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา รถกระบะคันดังกล่าวของนายกฤษดา ได้ถูกคนร้ายขโมยหายไปจากลานจอดรถภายในหมู่บ้านสินธร หมู่ 3 ต.บางพูน อ เมือง จ.ปทุมธานี ในช่วงเวลาบ่ายโมง ทำให้ต่อมานายกฤษดาได้เข้าแจ้งความบ่ายติดตามรถหายไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต

และต่อมาทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลงมือรถกระบะไปคือนายวีระนัฐภูมิ หรือ อู๋ อดีตลูกเขยที่เพิ่งเลิกรากับลูกสาวนายกฤษดาไปไม่นาน โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของหมู่บ้านบันทึกพฤติกรรมขณะที่นายวีระนัฐภูมิ ลงมือก่อเหตุก่อนขับรถของนายกฤษดาไป

ในวันนี้จึงได้เดินทางเพื่ออยากจะพบตัวนายวีระนัฐภูมิแล้วว่าขโมยรถกระบะของตนไปไว้ที่ไหน นายวีระนัฐภูมิ หรือ อู๋ ออกจากห้องขังของโรงพักเพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น นายกฤษดาได้แหวกกลุ่มผู้สื่อข่าวและตำรวจเข้าตะโกนถามนายวีระนัฐภูมิว่า “ไอ้อู๋มึงเอารถกูไปไว้ไหน” ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบนำตัวขึ้นรถในทันทีเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย

นายกฤษดา อดีตพ่อตา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นนายอู๋ได้มาคบหากับลูกสาวตนได้ประมาณ 4 เดือน โดยอ้างตัวว่ามีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ด้วยความเห็นใจคิดว่าเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ตนจึงให้กุญแจสำรองรถกระบะให้นายอู๋เอารถไปใช้ในเวลาจำเป็น จากนั้นต่อมาจู่ ๆ นายอู๋ก็มาขอเลิกกับลูกสาวตนอย่างไม่ทีเหตุผล ตนจึงได้ทวงรถกระยะพร้อมกุญแจสำรองคืน ซึ่งนายอู๋ก็ขับรถมาจอดคืนให้ แต่ไม่มีกุญแจสำรองคืนกลับมา จนกระทั่งต่อมาในวันที่ 20 ธ.ค.รถกระบะของตนได้ถูกคนร้ายขโมยหานไปจากลานจอดรถหน้าหมู่บ้าน เมื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดจึงพบว่านายอู๋ได้นำกุญแจสำรองมาไขแล้วสตาร์ทรถขับออกไป

หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วที่ สภ.ปากคลองรังสิต แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งถ้าในตอนนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวนายอู๋มาได้หลังเกิดเหตุ มันก็คงไม่เกิดเหตุร้ายกับผู้เสียชีวิตรายนี้อย่างแน่นอน ไม่รู้จิตใจมันทำด้วยอะไรขนาดคนมีบุญคุณกับมันแท้ ยังทำได้ลงคอ ทุกวันนี้ตนต้องมาผ่อนลมผ่อนกุญแจให้กับไฟแนนซ์เดือนละ 9 พันกว่าบาท วันนี้ทราบว่าเจ้าหน้าตำรวจจะนำตัวนายอู๋ไปทำแผนจึงอยากจะมาถามจากปากมันว่า มันเอารถตนไปไว้ที่ไหน เนื่องจากตนกัยภรรยาเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เป็นบุญของลูกสาวตนแล้วที่เลิกรากับมันไปก่อน