อัยการฟ้องแล้ว! “แอม ไซยาไนด์” วางยาฆ่าฉกทรัพย์ อดีตผัวตำรวจ–ทนายพัช โดนด้วย!

อัยการฟ้องแล้ว! มหากาฬ “แอม ไซยาไนด์” คดีการตายของก้อย อดีตผัวตำรวจ–ทนายพัชโดนด้วย แต่ทั้งหมดยังปฏิเสธ ศาลนัดตรวจหลักฐาน 2 ต.ค.นี้

พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสรารัตน์ หรือแอม ไซยาไนด์ อายุ 35 ปี , พ.ต.ท.วิฑูรย์ หรือ ออฟ อายุ 39 ปี อดีตสามี และ น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช อายุ 35 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่น

จากกรณี เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2566 เวลากลางวัน นางสรารัตน์จำเลยที่ 1มีเจตนาฆ่าโดย ไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ อายุ 32 ปี ด้วยการวางแผนใช้กำลังประทุษร้ายต่อชีวิต น.ส.ศิริพร โดยนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) ทำการปลอมปนใส่ลงในอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภค ชนิดใดและปริมาณเท่าใดไม่ปรากฏชัดให้ น.ส.ศิริพร ดื่ม จนหมดสติและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา

จากนั้นจำเลยที่ 1 ได้บังอาจชิงทรัพย์โดยใช้ลักเอาเงิน จำนวน 50,000 บาท และทรัพย์สินอื่น รวม 9 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 154,630บาท ของน.ส.ศิริพร ผู้ตายไปโดยทุจริต เหตุเกิดที่ ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี, และที่อื่นเกี่ยวพันกัน

ขณะที่ พ.ต.ท.วิฑูรย์ จำเลยที่ 2 มีเจตนาเพื่อจะช่วยนางสรารัตน์ จำเลยที่ 1 มิให้ต้อง รับโทษหรือให้ได้รับโทษน้อยลง

ส่วน จำเลยที่ 3 ได้บังอาจก่อให้จำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง โดยทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย

ต่อมาวันที่ 16 พ.ค. 2566 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาคดีนี้แก่จำเลยที่ 2 และในวันที่ 26 พ.ค 2566 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาคดีนี้แก่จำเลยที่ 3 ทั้งนี้ ชั้นสอบสวน จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการโจทก์ระบุด้วยว่า คดีนี้จำเลยที่ 1 กระทำผิดซึ่งข้อหาที่มีอัตราโทษสูง โจทก์ขอคัดค้านการประกันตัวของจำเลยที่ 1 เนื่องจากเกรงว่าจำเลยที่ 1 จะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานศาลอาญา ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2084/2566

โดยศาลได้สอบคำให้การจำเลยที่ 1 ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเร้นซ์ ไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนจำเลยที่ 2-3 เดินทางมาศาลตามที่พนักงานอัยการฟ้องส่งตัว โดยจำเลยทั้งสาม แถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายวันที่ 2 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ต่อมา พ.ต.ท.วิฑูรย์ จำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา จำเลยที่ 3 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ทั้งสองมีประกันตัวไปโดยตีราคาประกันคนละ 100,000 บาท ขณะที่ นางสรารัตน์ ไม่ยื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด