สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ เผยเมื่อวันอาทิตย์ (7 ส.ค.) ว่าระหว่างวันอังคารถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา (2-5 ส.ค.) มีคนไทยถูกปฏิเสธเข้าประเทศถึง 417 คน จากทั้งหมด 697 คน หรือเกือบ 60%
ส่วนสาเหตุที่ปฏิเสธการเข้าประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้เผยว่า คนกลุ่มดังกล่าวมีจุดประสงค์การเดินทางเข้ามาที่ไม่ชัดเจน
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ เผยอีกว่า จาก 417 คนดังกล่าว 367 คนเคยถูกปฏิเสธการเข้าประเทศโดยระบบลงทะเบียนเข้าประเทศแบบอิเล็กทรอนิกส์ K-ETA มาแล้ว
ด้านกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ เผยเมื่อวันจันทร์ (8 ส.ค.) ว่ามีแผนการนำระบบ K-ETA มาใช้อีกครั้งที่เกาะเชจู หลังจากยกเว้นการลงทะเบียนดังกล่าวในพื้นที่นี้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เพราะพบว่าคนไทยหลายคนที่เดินทางมาที่เกาะเชจูหายตัวไป
ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ยังมีมาตรการเข้มข้นขึ้นในการเฝ้าติดตามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศไทย เพราะมีอัตราการเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายสูงมาก
ข้อมูลของภาครัฐเกาหลีใต้เผยว่า เมื่อปี 2563 มีคนไทยอาศัยในเกาหลีใต้ราว 180,000 คน โดยที่อยู่แบบผิดกฎหมาย 151,468 คน
ค่าแรงสูง 9 ปี พุ่ง 88%
เกาหลีใต้เป็นประเทศจุดหมายปลายทางที่คนไทยจำนวนหนึ่งต้องการไปทำงาน ไม่ว่าจะถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายก็ตาม เพราะเห็นว่าค่าแรงค่อนข้างสูง
เมื่อปี 2565 ค่าแรงขั้นต่ำของเกาหลีใต้อยู่ที่ 9,160 วอน (254 บาท) ต่อชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้นราว 88% เมื่อเทียบกับปี 2556 หรือเมื่อ 9 ปีก่อน ที่ 4,860 วอน (135 บาท) ต่อชั่วโมง
อัตราการเพิ่มขึ้นดังกล่าวสูงมากเมื่อเทียบกับค่าแรงใน จ.ภูเก็ต ซึ่งสูงที่สุดของไทย ที่ขึ้นเพียง 12% ในช่วงเวลาเดียวกัน จาก 300 บาทต่อวัน เมื่อปี 2556 มาอยู่ที่ 336 บาทต่อวันเมื่อปี 2565 ซึ่งเป็นอัตราเดิมตั้งแต่ปี 2563