เจ้าของสวนน้ำตาคลอ ทุเรียนถูกวางยา ต้นทยอยตาย-ผลร่วง เงินปลิวตามไป 30 ล้าน

เจ้าของสวนน้ำตาคลอ ทุเรียนถูกวางยาดูดซึมชนิดร้ายแรง ต้นทยอยตาย-ผลร่วง เสียหายระยะยาว 30 ล้าน

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายชรินทร์ เผื่อชัย อายุ 51 ปี และภรรยา อยู่บ้านสะพาน5 ตำบลหาดพันไกร อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เจ้าของสวนทุเรียน ว่ามีมือดีย่องวางยาต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ส่งผลทำให้ทยอยยืนต้นตายและผลร่วงเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมถึงอายุในการเก็บเกี่ยวอีกหลายปีเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงความเสียหายพบว่าสวนทุเรียนและบ้านพักดังกล่าวอยู่ห่างจากถนนสายเพชรเกษมประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีนายชรินทร์ และภรรยา พาเดินไปยังสวนทุเรียนแปลงเกิดเหตุที่ถูกมือดีย่องวางยาเพื่อให้เกิดความเสียหาย พบเป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองอายุประมาณ 6-7 ปี จำนวน 25 ต้น ตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด 20 ต้น สภาพแต่ละต้นมีรอยลักษณะใช้มีดหรือของมีคมฟันโคนต้นเพื่อให้เกิดแผลมีรอยดำ ลำต้นใบเริ่มแห้งหลุดร่วง บางต้นใบร่วงเหลือแต่กิ่ง ส่วนผลทยอยร่วงมากองอยู่ใต้ต้นโดยมีขั้วยังติดอยู่กับกิ่ง

นายชรินทร์ เจ้าของสวนทุเรียน เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา บุตรของตนบอกว่าพบงูในสวนทุเรียน จึงใช้ไม้ไผ่ไปเขี่ยหางู บังเอิญไปเขี่ยใบหญ้าแห้งใต้ต้นทุเรียนพบรอยสีดำที่ไม่ใช่เชื้อรา เลยเอามือแหวกดู เจอรอยบากจึงมั่นใจว่าถูกวางยา เป็นยาฆ่าตอต้นไม้ชนิดยาดูดซึม ถ้าโดนยาตัวนี้แล้วใช้น้ำรดทุเรียนก็จะตาย หลังจากนั้นเดินสำรวจทุกต้นทั้งแปลงรวม 25 ต้น เจอถูกวางยา 20 ต้น เป็นต้นทุเรียนที่มีผลทั้งหมด

โดยตนหวังว่าปีนี้อีกประมาณเดือนกว่าๆ ก็จะเก็บผลผลิตจำน่ายได้กิโลละ 160-180 บาท รายได้อย่างน้อยรับ 600,000 บาท ทุเรียนโดยเฉลี่ยขายผลได้ต้นละ 20,000 บาท อายุต้นประมาณ 50 ปี เห็นเงินล้านใส่กระเป๋าถึงอนาคตอาจไม่ได้ใช้เงินเองลูกหลานก็ได้ใช้ 20 ต้น ที่เสียหายไปรวมๆ รายได้ภายใน 50 ปีนี้เป็นเงินที่สูญไปประมาณ 30 ล้านบาท พูดจบนายชรินทร์ถึงกับน้ำตาคลอ นายชรินทร์

เจ้าของสวน เล่าต่อว่า โดยส่วนตัวตนและครอบครัวไม่มีความขัดแย้งกับใคร เดิมตนเป็นคนที่อื่น มาอาศัยอยู่กับแฟนในพื้นที่ประมาณ 8-10 ปี เพื่อนบ้านกับตนมีความสนิทสนมกันดี ถามคนในหมู่บ้านได้เลยตนมีแต่ความรัก มีแต่ให้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้น โดยคนทำก็น่าจะคิดสักนิดว่าทำแล้วมันแก้ไม่ได้ เมื่อเกิดขึ้นแล้วถ้ามีหน่วยงานไหนสามารถแก้ไขช่วยทำให้ต้นทุเรียนฟื้นได้ตนเองยินดี แต่เชื่อว่าต้นทุเรียนทั้งหมดตายแน่นอน เพราะถูกวางยาดูดซึมชนิดร้ายแรง พร้อมทั้งได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว

เจ้าของสวน ฝากบอกถึงคนที่วางยาว่า “ทุกคนเวลาทำสวนมันเหนื่อย ลงทุนเยอะด้วย ใช้เวลา ปลูกทุเรียนไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็นเรื่องที่ยากต้องเจอปัญหาทุกรอบ ทุกเดือน ถ้าเป็นคุณคิดว่าถูกไหมที่ทำแบบนี้ ผมให้อภัยได้ถ้ามาสารภาพกับผม นิสัยคนเราแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ไม่ติดตัวไปตลอดหรอก ถ้าเราตั้งใจจะแก้มันไม่ใช้เรื่องยากครับ”