ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ในฐานะประธานบริษัท พระเกศฟิล์ม เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่อง “เลว 2018” และในฐานะกรรมการของสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และกรรมการฝ่ายกฎหมายของสมาคมวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายนักรบ โรจนธนากร หรือ ตู่ ซึ่งเป็นหุ้นส่วน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เมื่อ 27 ต.ค. 2564 ให้ดำเนินคดีกับ กลุ่มขบวนการเว็บไซต์พนันออนไลน์ และขบวนการขายซีดีเถื่อน ที่นำภาพยนตร์เรื่องเลว2018 และภาพยนตร์ อื่นๆ ไปขายในเว็บไซต์และเฟซบุ๊กโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงมีการนำไปภาพยนตร์ไปฉายใน YouTube และไลน์กลุ่มฟรี เพื่อประกอบการชักชวนให้เล่นการพนัน นั้น
ล่าสุด วันนี้(10 ก.พ.)เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. ดร.เกรียงศักดิ์ ได้พาพยานจำนวน 3 ปากเดินทางเข้าให้ปากคำ พงส.กกก.1 บก.ป.เพิ่มเติมตามที่อัยการสั่งให้สอบเพิ่ม
ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้สั่งฟ้องคดีที่ตนมาแจ้งความไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้ว คดีไปถึงชั้นอัยการได้สั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมในบางประเด็น วันนี้ตนได้พาพยานซึ่งเป็นคนสั่งซื้อแผ่นหนังเรื่องนี้มาให้ตำรวจสอบปากคำ ซึ่งพบว่ามีการลักลอบนำไปจำหน่ายจำนวนกว่า 30 เพจ แต่เราล่อซื้อมา 1 เพจ เอามาเป็นหลักฐานให้ตำรวจดำเนินคดี
ตนผลิตภาพยนตร์รวม 3 เรื่อง เข้าฉายในโรงแล้ว 2 คือ “เลว 2018” และ “คนมวยกับรักที่แตกต่าง” เรื่องที่สามชื่อ “โควิด-19” กำลังจะฉายเร็วๆ นี้ แต่ละเรื่องได้ฉายในโรงภาพยนตร์ในเครือใหญ่เป็นเวลา 14 วัน ยืนโรงนานกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนจะถูกกลุ่มโจรกลุ่มนี้มาโจมตี ด้วยการขโมยหนังของตนเอาไปขาย โดยยังมีการโปรโมทด้วยว่าหนังของตนดีแบบนั้นแบบนี้ ทั้งที่ขโมยลิขสิทธิ์ของตนไปจำหน่าย เป็นการเอาเปรียบผู้สร้างเจ้าของหนัง
ปัจจุบันก็ยังมีการขายอยู่ในรูปหนังแผ่น วันนี้มาสอบเพิ่มเติมเพื่อให้ปราบปรามให้ถึงที่สุด เขาเคยติดต่อมาขอเจรจาจ่ายเงิน 1.5 หมื่นแต่ตนไม่รับ ไม่คุ้มกับสิ่งที่ลงทุนไป ตนอยากให้ทางตำรวจจัดการกับกลุ่มคอเชิ้ตขาว กลุ่มนี้เป็นภัยสังคมมาก ไม่สร้างแต่ขโมยเอาหนังคนอื่นไปฉาย นอกจากรายนี้ตนจะตามล่ารายอื่นๆ ที่ขโมยเอาไปฉายตามสื่อออนไลน์ฃ ตนในฐานะคนสร้างหนังจะตามเอาเรื่องให้ถึงที่สุด