เปิดประวัติ “หลวงปู่ศิลา” เกจิดังภาคอีสาน ลูกศิษย์เล่าปาฏิหาริย์ มีญาณหยั่งรู้อุบัติเหตุ

เปิดประวัติ “หลวงปู่ศิลา” เกจิดังภาคอีสาน ลูกศิษย์เชื่อมีญาณหยั่งรู้ล่วงหน้า ทำให้รอดจากอุบัติเหตุกระบะหวิดชนเบนซ์

จากกรณี พระมหาศิลา สิริจันโท หรือ หลวงปู่ศิลา ซึ่งกำลังเดินทางจากกาฬสินธุ์ ไปงานเจริญพระพุทธมนต์ ที่วัดพระธาตุหมื่นหิน บ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ. กาฬสินธุ์ จู่ๆ ได้มีรถกระบะเสียหลักขับข้ามเลนมาเกือบจะพุ่งชนรถของหลวงปู่ แต่ด้วยเหตุใดก็ไม่ทราบได้ รถกระบะคันดังกล่าวหยุดได้ก่อนที่จะถึงรถหลวงปู่เพียงแค่นิดเดียว ทำให้คนขับรถหักหลบได้ทัน ซึ่งคนขับรถและลูกศิษย์ต่างก็เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงปู่ศิลา และแน่นอนว่าหลังจากมีการโพสต์คลิปดัง ก็มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์และมีการเเชร์เป็นจำนวนมาก

  • แทบหยุดหายใจ! กระบะเหินข้ามเกาะ หวิดเสยเบนซ์ “หลวงปู่ศิลา” แต่หยุดทันในเสี้ยววิ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดพระธาตุหมื่นหินบ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ. กาฬสินธุ์ ซึ่งไม่พบหลวงปู่ศิลา เนื่องจากเดินทางกลับสวนสงฆ์แกแปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ที่จำพรรษาแล้ว จึงได้สอบถาม นายจารุวัฒน์ ภูมีเขียน อายุ 35 ปี คนขับรถของหลวงปู่ศิลา โดยนายจารุวัฒน์ เล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนเองได้ขับรถเบนซ์ ทะเบียน 6กฐ 9571 กรุงเทพมหานคร พาหลวงปู่เดินทางออกจาก จ.กาฬสินธุ์ ได้ประมาณ 30นาทีวิ่งถนนสายกาฬสินธุ์-มุกดาหาร พอมถึงจุดเกิเหตุเวลาประมาณ 10.30 น.ช่วงบริเวณบ้านภูเขาทอง อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ตนเองก็ได้คุยกับหลวงปู่ว่าบ้านภูเขาทองอยู่เขตอำเภอไหนหลังจากคุยกันเสร็จก็มีรถกระบะขับเสียหลักข้ามเลนมาตัดหน้ารถของหลวงปู่ศิลา

ตอนนั้นตนเองรู้สึกตกใจมากแต่หลวงปู่ก็บอกว่าให้ขับรถรีบๆ โดยพูดเป็นภาษาอีสานว่าฟ้าวๆ แล้วตนก็ได้เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นจนรถพ้นจากรถกระบะคันดังกล่าว ก่อนที่หลวงปู่จะถามด้วยความเป็นห่วงว่ามีใครเป็นอะไรไหม แล้วในความโชคร้ายก็มีความโชคดีคือรถนำขบวนหลวงปู่เป็นรถกู้ภัยของมูลนิธิหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท-ฮงเต็กเสี่ยงตึ๊ง อําเภอเขาวง หลังเกิดเหตุรถกู้ภัยจึงได้กลับรถเพื่อมาช่วยเหลือรถกระบะคันที่ประสบอุบัติเหตุ และโชคดีที่คนขับรถกระบะคันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแต่สภาพรถกระบะพังเสียหายทั้งคัน หลังจากที่เจ้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเเล้วก็ได้นำส่งโรงพยาบาล จากนั้นตนเองก็ได้พาหลวงปู่เดินทางมางานเจริญพระพุทธมนต์ต่อไป

นายจารุวัตน์ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ หลวงปู่ได้กำชับให้นำรถคันที่หลวงปู่ใช้เป็นพาหนะไปเช็กช่วงล่าง โดยเปลี่ยนโชครถทั้งหมดเพิ่งจะเสร็จเรียบร้อยเมื่อวานและรถก็ยังไม่ได้มีการทอดสอบเลยหลังจากที่ซ่อมเสร็จก็นำมาใช้งานในวันนี้พาหลวงปู่มางานเจริญพระพุทธมนต์ที่วัดพระธาตุหมื่นหิน บ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ แล้วก็เจอกับเหตุการณ์การดังกล่าว สำหรับตนเองนั้นเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงปู่จึงสามารถผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ เชื่อว่าเป็นปาฎิหาริย์ เพราะในรถนั้นมีพระของหลวงปู่ตั้งอยู่หน้ารถที่เพิ่งนำมาวางไว้เมื่อเช้าเเละตนเองก็แขวนพระของหลวงปู่ติดตัวตลอดเวลาด้วย

สำหรับหลวงปู่พระมหาศิลา สิริจันโท แห่งสวนสงฆ์แกแปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีนามเดิมชื่อ ศิลา นิลจันทร์ เกิดเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ.2488 เป็นพระเกจิเรืองวิทยาคมอีกรูปหนึ่งแห่งภาคอีสาน มีวัตรปฏิบัติดี สมถะ เรียบง่าย เสมอต้นเสมอปลาย ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา ปัจจุบันสิริอายุ 76 ปี พรรษา 55 บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อครั้งอายุ 15 ปี ณ วัดธาตุประทับ และอุปสมบท สังกัด มหานิกาย เมื่อปี พ.ศ.2509 ณ วัดบูรพาภิราม จ.ร้อยเอ็ด โดยพระสิริวุฒิเมธี (เจ้าคณะ จ.ร้อยเอ็ดสมัยนั้น) หลวงปู่พระมหาศิลา ศึกษาปริยัติอย่างมุ่งมั่น จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 6 ประโยค รับพัดเปรียญกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เมื่อปี พ.ศ.2515 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้รับหน้าที่เป็นพระอาจารย์สอนที่ รร.วัดนิคมคณาราม จ.ร้อยเอ็ดและรับหน้าที่เป็นพระที่สวดปาฏิโมกข์ในการลงอุโบสถของคณะสงฆ์ตลอดมา

เมื่อแตกฉานด้านปริยัติแล้ว หลวงปู่พระมหาศิลา ได้จาริกแสวงบุญ ปลีกวิเวกไปหลายจังหวัด เช่น จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.ชัยภูมิได้เดินธุดงค์ ป่า ณ ภูเขา อ.สังคม จ.หนองคาย สู่ ภูเขาควาย สปป.ลาว ในปี พ.ศ.2517 เดินทางไปกับหลวงพ่อบ้านชาติ วัดบ้านชาติ จ.ร้อยเอ็ด (มรณภาพแล้ว) ได้พบกับครูบาอาจารย์มากมาย เช่น หลวงปู่ทองมา ถาวโร , หลวงปู่มหาบุญมี สิรินธโร, หลวงปู่ลี กุสลธโร และเป็นสหธรรมมิกกับครูบาอาจารย์หลายรูป เช่น หลวงพ่อสมาน ธัมรักขิตโต , หลวงปู่หนู อินทวัณโณ, หลวงปู่สมสิทธิ์ รักขิสีโล, หลวงปู่ล้อม สีลสังวโร

หลวงปู่พระมหาศิลา ได้ร่ำเรียนวิปัสนาและเรียนอักษรธรรมลาว และอ่านหนังสือจากใบลานอีสานได้อย่างแตกฉาน และได้ศึกษาคัมภีร์ใบลานสายสมเด็จลุนจาก สปป.ลาว หลายฉบับ ศึกษาจนแตกฉาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา หลวงปู่พระมหาศิลา ได้ปลีกวิเวกหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นป่าช้าร้างหลายแห่ง จนหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด ซึ่งเคารพนับถือท่านมาก ได้กราบนิมนต์ท่านมาจำพรรษาที่วัด โดยหลวงปู่ประสงค์จะปลีกวิเวก ณ สวนสงฆ์บ้านแกเปะ เหล่าศิษยานุศิษย์จึงร่วมกันสร้างกุฏิถวาย หลวงปู่ได้จำพรรษาตลอดมาพระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ได้มีความเลื่อมใสในองค์หลวงปู่ ได้นิมนต์ท่านขึ้นไปร่วมงานพุทธาภิเษกพระกริ่งวัดสุทัศน์ฯ และหลายๆ วัดในภาคอีสานจะกราบอาราธนาหลวงปู่ไปร่วมปรกแทบทุกงาน เนื่องจากเหล่าศิษยานุศิษย์ได้ประจักษ์แก่สายตา เรื่องพุทธาคม วัตรปฎิบัติ ความเมตตา ความสันโดษ และเรื่องญาณหยั่งรู้ที่ท่านสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างน่าอัศจรรย์