อะไรขนาดนั้น! หนุ่มแต่งเมียแก่กว่า 17 ปี ภูมิใจเมียแก่แต่สวย คืนเข้าหอเพิ่งเห็นตอนล้างเครื่องสำอาง เจ้าบ่าวตะลึงพูดไม่ออก ตั้งสติได้ปุ๊บยืนกรานขอเลิกเป็นอย่างแรก
จากรายงานพบว่า ชายแซ่เฉาอาศัยอยู่ในเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้พบกับหญิงสาวแซ่จางผ่านโซเชียลมีเดีย ขณะนั้นนายเฉาอายุ 30 ปี และ น.ส.จางอายุ 47 ปี ทั้งสองเริ่มแชทออนไลน์และและต่างพบว่าอีกฝ่ายมีเสน่ห์มาก ดังนั้นพวกเขาจึงนัดพบกันในชีวิตจริง
น.ส.จาง อายุมากกว่านายเฉา 17 ปี แต่ด้วยการแต่งหน้าอย่างระมัดระวังและเสื้อผ้าที่ทันสมัย เธอจึงดูเด็กกว่าอายุจริงมาก จากการพบกันครั้งแรก นายเฉาถูกดึงดูดด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม น่ารัก มั่นใจ และเป็นผู้ใหญ่ของ น.ส.จางตรัง นอกจากนี้ ภูมิหลังครอบครัวของพวกเขายังค่อนข้างคล้ายกันอีกด้วย ทำให้พวกเข้ากันได้เป็นอย่างดี
หลังจากคบหาดูใจกันสักระยะหนึ่ง นายเฉาก็ตัดสินใจขอ น.ส.จาง แต่งงาน แม้ว่าจะอายุห่างกันมากก็ตาม เพราะเขาไม่อยากพลาดจากผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมในทุกด้านเช่นนี้ งานแต่งงานของทั้งคู่จัดขึ้นที่บ้านเกิดของฝ่ายชาย แม้จะไม่ใหญ่โตโอ่อ่าแต่ก็อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ในตอนนั้นทั้งคู่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในสายตาคนรอบข้างพวกเขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว
ในคืนวันแต่งงาน นายเฉาร่าเริงมีความสุข และตั้งหน้าตั้งตารอเข้าห้องหอกับภรรยา อย่างไรก็ดี เมื่อ น.ส.จาง ไปลบเครื่องสำอางออกทั้งหมด นายเฉาก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นใบหน้าที่เปลือยเปล่าของภรรยา เขารับไม่ได้ที่ภรรยาของเขาเป็นป้าแก่ๆ หน้าตาอัปลักษณ์ ดูแก่กว่าแม่ของเขาเสียอีก ปรากฎว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา น.ส.จางมักจะแต่งหน้าและแต่งตัวอย่างระมัดระวังเมื่อมาพบกับนายเฉา ด้วยทักษะการแต่งหน้าอันเหนือชั้นนี้ทำให้เขาจำรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเธอไม่ได้
ความตกใจนี้ทำให้นายเฉารู้สึกว่าถูกหลอก ดังนั้นในคืนวันแต่งงาน นายเฉาจึงประกาศว่าเขาต้องการหย่ากับ น.ส.จาง และไล่เธอออกจากบ้าน ในเวลานี้ น.ส.จางรู้สึกเสียใจต่อสามีของเธอเช่นกัน พยายามอธิบายว่าเธอแค่อยากสวยเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ และต้องการสร้างความประทับใจที่ดีให้กับนายเฉา เธอพยายามกอบกู้สถานการณ์ โดยกล่าวว่าตั้งแต่ออกเดตจนถึงแต่งงาน นายเฉามีท่าทีเชิงรุกและสมัครใจเสมอ ตอนนี้มันยากสำหรับเธอที่จะยอมรับความเปลี่ยนแปลงของเขา
เมื่อถูกปฏิเสธไม่ให้จุมพิตในคืนวันแต่งงาน น.ส.จางจึงให้ทางเลือกแก่นายเฉา 2 ทาง ทางหนึ่งให้ทั้งสองไปจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมายและอยู่กินกันต่อไป อีกทางหนึ่งคือจะยอมเลิกรากันไป แต่นายเฉาต้องจ่ายชดเชยให้เธอ 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท) อย่างไรก็ดี นายเฉาไม่เห็นด้วยเพราะเขาเป็นเหยื่อที่ถูกนางสาวตรังหลอก ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการเสียเปรียบ ในทางกลับกัน เขาต้องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนด้วย นายเฉาไม่ต้องการรักษาการแต่งงานของเขากับ น.ส.จางอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และคิดว่าต้องใช้กฎหมายแก้ปัญหา