นางสาวอะเลสซานดรา ดูช ซันตูช ซิลวา แดนเซอร์แซมบ้าวัย 35 ปี ชาวนครฮิวจีจาเนย์รู (ริโอเดจาเนโร) ของบราซิล เข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกมดลูกในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองดังกล่าว แต่หลังจากตื่นจากฤทธิ์ยาสลบก็พบว่าตัวเองถูกตัดแขนซ้ายตั้งแต่เหนือศอกลงมาออกไป
เมื่อเดือน ส.ค. แพทย์พบเนื้องอกกำลังเติบโตที่มดลูกของนางสาวซิลวา จึงนัดมาผ่าตัดเมื่อเช้าวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่นมา แต่ช่วงเย็นวันดังกล่าว แพทย์พบว่ามีอาการตกเลือด จึงตัดสินใจผ่าตัดเอามดลูกออกทั้งหมด
หลังผ่าตัด ครอบครัวมาเยี่ยมและพบว่าแขนและขาของแดนเซอร์รายนี้ที่ถูกพันแผลอยู่นั้นเย็นผิดปกติ และนิ้วมือก็มีสีดำคล้ำ
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ก.พ. แพทย์บอกกับญาติของนางสาวซิลวาว่าจะต้องส่งตัวไปรักษาที่สถานพยาบาลอีกแห่ง และเมื่อไปถึงแขนบางส่วนก็กลายเป็นสีดำแล้ว และแม้ว่าแพทย์พยายามสุดฝีมือแต่ก็รักษาแขนเอาไว้ไม่ได้ ทำให้บอกกับญาติเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่าถ้าไม่ตัดแขน ก็จะรักษาชีวิตของนางสาวซิลวาไว้ไม่ได้ด้วย เพราะอาการลุกลามจนทำให้ตับและไตใกล้ล้มเหลวเต็มที
เมื่อนางสาวซิลวาตื่นมาก็พบว่าแขนตัวเองถูกตัดออกไปแล้ว และได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเมื่อวันที่ 15 ก.พ.
หลังจากนั้นไม่นาน แพทย์ก็นัดมาพบอีกและเห็นว่าแผลผ่าตัดน่ากังวล ทำให้ต้องแอดมิตอีกครั้งในวันที่ 3 มี.ค. และอยู่ในโรงพยาบาลต่ออีกราว 1 เดือน ก่อนปลอดภัยเพียงพอที่จะกลับบ้านได้
นางสาวซิลวาเผยว่า ตนหมั้นกับคู่หมั้นมาแล้ว 11 ปี และฝันอยากมีลูก แต่ขณะนี้ทำไม่ได้แล้ว และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาเงินเลี้ยงตัวเองอย่างไรทั้งอาชีพแดนเซอร์และช่างเสริมสวย เพราะเหลือแขนแค่ข้างเดียว
“ฉันอยากพวกเขารับผิดชอบ อยากให้โรงพยาบาลรับผิดชอบ เพราะพวกเขาเป็นคนที่ทำให้ชีวิตของฉันพัง พวกเขาทำลายงานของฉัน อาชีพของฉัน ความฝันของฉัน ทำลายทุกอย่าง”
ด้านครอบครัวของนางสาวซิลวา กล่าวว่า ทุกวันนี้ที่นางสาวซิลวายังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะกำลังใจจากเพื่อนๆ ที่คอยต่อสู้ให้เธอได้กลับเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหลังจากเกิดอาการต่างๆ หลังผ่าตัด