โชเฟอร์สองแถว แจงดราม่า ป้ายค่าโดยสารคนอ้วน 10 บาท คนผอม 8 บาท

อ้วน 10 บาทผอม 8 ชาวเน็ตจวกค่าโดยสารสองแถวบูลลี่ ลุงคนขับเผยที่มาของป้ายราคาโดยสาร แจงเด็กนักเรียนเขียนขำๆ 

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์รูปภาพและข้อความว่า “เพิ่งรู้ว่า เดี๋ยวนี้ แค่ขึ้นรถ2แถว ก็รู้แล้วว่าตัวเองอ้วนหรือผอม #เก็บแบบนี้จริงดิ มันปวดใจเวลาไม่ได้รับตังค์ทอน”

ล่าสุด วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริงดังกล่าว ที่ท่าบริการรถโดยสารสองแถวสาย เรวดี-วัดปากน้ำ เพื่อตามหารถสองแถวคันตามที่มีผู้นำรูปมาโพสต์ไว้

พบ นายบุญมา (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี คนขับรถสองแถวคันกล่าว บริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังพบแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด สีขาวปิดอยู่ด้านบนหลังคารถส่วนคนขับ โดยมีตัวหนังสือเขียนระบุข้อความว่า “อ้วน 10 บาทครับ ผอม 8”

จากการสอบถาม นายบุญมา คนขับรถสองแถวถึงที่มาของป้ายราคาผู้โดยสารดังกล่าว โดย ลุงบุญมา ตอบว่า ป้ายราคาที่เห็นดังกล่าวกลุ่มเด็กๆ นักเรียนเป็นคนเขียนเอาไว้ ซึ่งน่าจะเขียนกันเล่นๆ ขำๆ กัน และเพิ่งจะเขียนได้ไม่นานนี้เอง ช่วงที่ก่อนที่โรงเรียนจะเริ่มหยุดสอบ

หลังมีป้ายนี้มาก็มีผู้โดยสารถามตนเมื่อกันว่าค่าโดยสารเปลี่ยนเป็น 10 บาทแล้วเหรอ ซึ่งผู้โดยสารขาประจำก็จะรู้กันว่าค่าโดยสารจริงๆ แค่เพียง 8 บาทเท่านั้น แต่ที่ถามก็เหมือนลักษณะแกล้งถามกันมากกว่า

นายบุญมา กล่าวอีกว่า รถสองแถวสายนี้วิ่งจากปากซอยเรวดี 6 ไปออกถนนติวานนท์ จากนั้นไปกลับรถที่แคราย ผ่านกระทรวงสาธารณสุข เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์ เลี้ยวซ้ายที่แยกศรีพรสวรรค์ เข้าถนนพิบูลสงคราม ถึงวัดปากน้ำแล้วกลับมาที่ซอยเรวดี ไอ้เรื่องป้ายที่นักเรียนเขียนเป็นแค่เรื่องขำๆ

แต่ที่ตนขำไม่ออกก็คือราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นราคามาอยู่ที่ลิตรละ 35 บาท ตนต้องเช่ารถสองแถวมาขับวันละ 300 บาทไม่รวมค่าน้ำมัน วันไหนผู้โดยสารน้อย หรือไม่มีเด็กนักเรียนขึ้น โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม วิ่งรถทั้งวันก็แทบไม่เหลืออะไร วันๆ หนึ่งตนต้องรับผู้โดยสารให้ได้ 100 คนขึ้นไปถึงจะพออยู่ได้ แต่ทุกวันนี้แย่มากๆ

ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับ น.ส.ดาว หญิงสาวผู้โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อสองวันที่แล้วตนได้ขึ้นรถสองแถวจากหน้าเมเจอร์ฯ นนท์เพื่อโดยสารมาลงที่วัดปากน้ำ จังหวะที่เดินขึ้นไปนั่งบนรถสองแถว ก็เห็นป้ายราคาโดยสารที่เขียนไว้ 

ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มองว่าเป็นเรื่องขำๆ ดี และปกติตนก็โดยสารรถสองแถวเป็นประจำเพื่อส่งลูกไปโรงเรียนและไปตลาด ซึ่งราคาค่าโดยสารปกติก็อยู่ที่ 8 บาทตลอดสาย บางครั้งตนก็จ่ายค่าโดยสารเป็นเหรียญ 10 บาทอยู่แล้ว และก็ให้ทิปที่เหลือโดยไม่ต้องทอนกับคนขับรถไป เป็นการช่วยเหลือกัน

แต่ในวันที่เห็นป้ายนี้ตนก็จ่ายค่าโดยสารเป็นเหรียญ 10 บาท แล้วเดินออกมาเลยโดยไม่รอเงินทอน เพราะกลัวคำตอบจากคนจับรถจะคิดค่าโดยสารตามป้ายราคา

ส่วนประเด็นที่มีหลายคอมเมนต์ในโลกโซเซียล ระบุว่า ป้ายค่าโดยสารเป็นการบูลลี่หรือเหยียดคนอ้วนนั้น ส่วนตัวตนเองมองเป็นเรื่องขำๆ มากกว่า แม้คนในสังคมจะมองกันต่างมุมหลายแบบ จะมองว่าบูลลี่ก็ได้หรือจะมองว่าตลกก็ได้ แต่สำหรับตนเองมองว่ามันเป็นเรื่องตลกมากกว่า ไม่ได้ซีเรียสอะไร