Israel ให้พลเมืองปาเลสไตน์ต้องอพยพออกจากกาซาภายในกําหนดเวลาในขณะที่กองทัพรวมตัวกันที่แนวชายแดน

ปาเลสไตน์กําลังหนีไปทางใต้หลังจากรัฐบาลอิสราเอลสั่งให้อพยพจากเขตเหนือของกาซาในขณะที่เริ่มปฏิบัติการทางทหาร

กองทัพอิสราเอลเริ่มปฏิบัติการทางทหารในเขตเหนือของกาซาก่อนการบุกทางบกประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากฮามาสเริ่มโจมตี

ฮามาสสั่งการให้ประชาชนไม่ต้องฟังคําสั่งอพยพจากอิสราเอล

ผู้พูดคนหนึ่งของกองทัพอิสราเอล ชื่อ Jonathan Conricus แชร์ข้อความ ที่เขากล่าวว่าส่งไปยังพลเมืองในกาซาเมื่อวันศุกร์เช้า

“กองทัพอิสราเอลเรียกร้องให้อพยพพลเมืองทั้งหมดจากเมืองกาซาซิตี้ไปทางใต้เพื่อความปลอดภัยและความคุ้มครองของตนเองและเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ทางใต้ของวาดีกาซา ตามแผนที่ที่แสดง” Conricus กล่าว

กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นักก่อการร้ายฮามาสซ่อนตัวอยู่ใน “ท่อนที่ใช้ในการก่อการร้าย” ภายใต้บ้านและอาคารพลเมือง และเรียกร้องให้พลเมืองอพยพออกจากพื้นที่ก่อนที่ทหารจะเข้ามาทําลายฮามาส

แต่องค์การสหประชาชาติและองค์กรนานาชาติอื่นๆวิพากษ์วิจารณ์ว่าขนาดและระยะเวลาของคําสั่งอพยพเป็นภาระที่ไม่เป็นธรรม

ผู้อํานวยการทั่วไปขององค์การความช่วยเหลือและงานพัฒนาของสหประชาชาติ ฟิลิปเป ลาซารีนี กล่าวว่าคําสั่งอพยพ “น่าสะพรึงกลัว” ในการประกาศคาดการณ์ว่าการตอบโต้ของอิสราเอลต่อการก่อการร้ายของฮามาสจะ “นําไปสู่ระดับความทุกข์ยากและกดดันประชาชนในกาซาให้ตกต่ําลง”

ลาซารีนีกล่าวว่ามีผู้พลัดถิ่นในกาซามากกว่า 423,000 คนนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่า 270,000 คนได้หนีภัยไปพักอาศัยในศูนย์พักพิงขององค์การสหประชาชาติ

กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2,125 คน และบาดเจ็บอีก 8,714 คนในการโจมตีด้วยเครื่องบินของอิสราเอลที่ภาคพื้นดินกาซาตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

กองทัพอิสราเอลกล่าวว่าพบศพของนักก่อการร้ายฮามาสประมาณ 1,500 คนในดินแดนอิสราเอลหลังจากฮามาสทําการโจมตีเป็นการลับต่ออิสราเอลที่ฆ่าชาวอิสราเอลไปประมาณ 1,300 คน

มีผู้บาดเจ็บหลายพันคนอีกด้วย และมีผู้อื่นถูกจับเป็นตัวประกันโดยฮามาสและถูกทรมาน ข่มขืน และฆ่า