อัยการอาวุโส เผยคดี “แอม ไซยาไนด์” ผิดจริงแต่รอดประหาร เพราะกฎหมายชี้ชัด “หญิงท้องประหารไม่ได้”
วานนี้(28 เม.ย. 66) นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส กล่าวถึงคดีของนางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ เอาสารพิษให้ผู้อื่นบริโภคและลักทรัพย์” ที่ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตสูงถึงจํานวน 13 ศพ
นายปรเมศวร์ เปิดเผยว่าโทษในคดีดังกล่าวที่น่าสนใจ มีอย่างเดียวคือ “ประหารชีวิต” แต่นางสรารัตน์ หรือแอม นั้นไม่สามารถที่จะรับโทษประหารได้ เนื่องจากกฎหมายระบุไว้ว่า “หญิงใดจะต้องประหารชีวิต ถ้ามีครรภ์อยู่ ให้รอไว้จนพ้นกำหนดสามปีนับแต่คลอดบุตร แล้วให้ลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต เว้นแต่เมื่อบุตรถึงแก่ความตาย ก่อนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว ในระหว่างสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้หญิงนั้นเลี้ยงดูบุตร ตามความเหมาะสมในสถานที่ที่สมควรแก่การเลี้ยงดูบุตรภายในเรือนจำ”
โดยนายปรเมศวร์ กล่าวสรุปให้เข้าใจง่ายๆว่า คดีนี้ตามกฎหมายแล้ว นางสรารัตน์ หรือแอม ซึ่งปัจจุบันตั้งงครรภ์อยู่ 3 เดือน น่าจะรอดโทษประหารชีวิตเพราะมีเด็กอยู่ กระบวนการยุติธรรมก็คงจะดำเนินไปก่อนที่จะคลอด ดังนั้นกรณีที่ต้องโทษประหาร กฎหมายบังคับให้ลดโทษลง และที่ข้อกฎหมายเขียนมาแบบนี้ก็เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ส่วนประเรื่อง “โรคจิตเวช” นั้นนายปรเมศวร์ กล่าวว่า “ไร้สาระ” เพราะผู้ต้องหามีสติดี ตอบคำถามได้หมด ไม่มีผลในทางคดีแน่นอนและไม่ควรยกขึ้นมาทำให้สังคมไขว้เขว
อย่างไรก็ตามด้านโลกโซเชียล ต่างมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการละเว้นโทษประหาร “แอม ไซยาไนด์” โดยสรุปใจความได้ว่า “ผู้ต้องหาตั้งครรภ์แต่ก่อคดีร้ายแรกกลับไม่ถูกประหาร เช่นนั้นแล้วหากฆ่า 20-30 ศพ ก็รอด ซึ่งไม่ยุติธรรมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต” ซึ่งส่วนใหญ่ระบุอยากให้มีการแก้กฎหมายให้มีความเหมาะสมกว่านี้ เพื่อความเป็นธรรมต่อครอบครัวของผู้สูญเสีย