คดีสยองขวัญ สาวญี่ปุ่นใช้โอกาสตอนนวดให้แม่ แทงคอแม่ดับก่อนหั่นศพทิ้ง แล้วทวิตบอก “ฉันเอาชนะสัตว์ประหลาดได้” ปมถูกบ่นเรื่องสอบตก
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2561 ที่เมืองโมริยามะ จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น เกิดเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ลูกสาวฆ่าแม่และแยกชิ้นส่วนร่างกายทิ้ง ความแตกเมื่อพบศพผู้เป็นแม่อายุ 58 ปี ในก้นแม่น้ำไม่ไกลจากบ้านของเธอ โดยมือ, ขา และศีรษะหายไป ต่อมาตำรวจพบว่าฆาตกรที่ฆ่าและแยกชิ้นส่วนศพ คือลูกสาววัย 31 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในแผนกการแพทย์
ตามรายงานพบว่า ตามปกติแล้วแม่และลูกสาวคู่นี้สนิทกัน แต่ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ลูกสาวสอบเข้าโรงเรียนผดุงครรภ์ไม่ผ่าน และแม่ก็ดุเธอไม่หยุดเป็นเวลาสองวัน เมื่อสบโอกาสตอนนวดให้และแม่กำลังหลับลึก เธอจึงใช้อาวุธแทงคอแม่จนเสียชีวิต และในวันที่ลงมือฆ่าแม่แล้วนั้น เธอยังโพสต์ในทวิตเตอร์ส่วนตัวบอกว่า “ฉันเอาชนะสัตว์ประหลาดได้ ตอนนี้ฉันรู้สึกโล่งใจแล้ว”
วันรุ่งขึ้นเธอไปที่ร้านค้าเพื่อซื้อเครื่องมือสำหรับใช้ในการแยกชิ้นส่วนศพ ก่อนนำชิ้นส่วนไปทิ้งไว้ที่ก้นแม่น้ำ ห่างจากบ้านของเธอเพียง 370 เมตร และหลังจากกลับถึงบ้านเธอยังใช้โทรศัพท์มือถือของแม่ เพื่อตอบกลับข้อความจากญาติและเพื่อนๆ โดยทำเป็นว่าแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายเดือน
อย่างไรก็ดี เมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากเธอต้องจดจ่ออยู่กับการเตรียมตัวสอบพยาบาลแห่งชาติ ทำให้เธอะเลยเรื่องการทิ้งศพไว้ที่ก้นแม่น้ำ และมันค่อยๆ เหม็นคละคลุ้ง จนในที่สุดศพก็ถูกพบโดยคนเดินผ่านไปมาในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน มีการแจ้งตำรวจและคดีฆาตกรรมก็ถูกเปิดโปง
หลังจากได้รับรายงาน ตำรวจก็เริ่มสอบสวนทันที ในตอนแรกลูกสาวยังปฏิเสธข้อสงสัยทั้งหมด และแม้แต่โกหกในตอนแรกว่าแม่ของเธอฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม หลังจากอัยการแสดงหลักฐาน เธอก็ต้องยอมจำนนและสารภาพความผิดทั้งหมด ก่อนถูกส่งตัวไปรับโทษตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยด้วยว่า หลังจากฆ่าแม่ไปแล้วนั้น ในช่วงแรกๆ เธอก็ยังมีความรู้สึกผิดอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็ค่อยๆ ชินกับมัน และเนื่องจากไม่มีแม่มาคอยดุด่าอีกต่อไป เธอจึงรู้สึกผ่อนคลายกว่าเดิมมากเสียอีก